เว็บไซต์หางาน Part Time และประกาศรับสมัครงานทุกประเภท

5 เทคนิคดูแลสุขภาพ เพื่อหนุ่มสาววัยทำงาน ควรดูแลตนเองอย่างไร ?

5 เทคนิคดูแลสุขภาพ เพื่อหนุ่มสาววัยทำงาน ควรดูแลตนเองอย่างไร ?
ปัญหาสุขภาพของคนวัยทำงาน ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก เนื่องจากมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หลาย ๆ คนเริ่มมองหาเทคนิคดูแลสุขภาพ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตามอินเทอร์เน็ต แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า วิธีการดูแลสุขภาพนั้น มีประโยชน์และนำไปปรับใช้ได้จริงหรือไม่ ? PartTimeTH จึงได้รวบรวม 5 เทคนิคดูแลสุขภาพ เพื่อหนุ่มสาววัยทำงาน ได้ศึกษาเรียนรู้และนำไปปรับใช้กันในชีวิตประจำวัน ซึ่งรายละเอียดการดูแลตนเองจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

5 เทคนิคดูแลสุขภาพ ให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการทำงาน

1. จัดสรรเวลาแบบ Work Life Balance

เคยได้ยินหรือพบเจอมาก่อนหรือไม่ ? กับนิยามเทคนิคดูแลสุขภาพ 8-8-8 หากมีความสงสัยหรืออยากรู้ว่ามีที่มาอย่างไร ? มาไขคำตอบกัน

ใน 1 วัน คนทุกคนมีเวลาในการใช้ชีวิตตลอดวัน จึงได้แบ่งเวลาเป็นช่วงเวลาเป็น 8-8-8 เท่ากับว่าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

  • 8 ชั่วโมงของการนอนหลับ การเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลาจะช่วยให้มีการฟื้นฟูร่างกายที่ดี หมั่นจัดห้องนอนให้นอนหลับสบาย รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน เพื่อให้การนอนหลับนั้นพักผ่อนเพียงพอ
  • 8 ชั่วโมงของการทำงาน เริ่มต้นทำงานตรงเวลา จดจ่อกับงานที่ได้รับมอบหมาย จัดลำดับความสำคัญของงาน มีช่วงเวลาพักเบรกสั้น ๆ ระหว่างทำงาน และรับผิดชอบงานให้เสร็จตามกำหนด เพื่อให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพ
  • 8 ชั่วโมงของการพักผ่อนหลังทำงาน สิ่งที่คนทำงานกลัวที่สุด คือ ช่วงเวลาที่จะมีเวลาพักผ่อน หากิจกรรมที่ชื่นชอบทำ เช่น ดูหนัง, อ่านหนังสือ, ฟังเพลง และไม่ลืมหาเวลาที่จะพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ได้ทานอาหารอร่อย ๆ พักสายตาจากหน้าจอและโซเชียลมีเดีย และอย่าลืมการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย
work life balance

2. ออกกำลังกายตามอายุเพื่อสุขภาพที่ดี

การออกกำลังกายเป็นประจำมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายและจิตใจ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลาย ลดความเครียด แต่ยังช่วยกระตุ้นสารเอนโดรฟิน ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี และส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย

สำหรับสาววัยทำงาน ที่อาจไม่มีเวลาออกกำลังกายมากนัก ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เปลี่ยนออฟฟิศให้กลายเป็นฟิตเนสส่วนตัว

ทริคเด็ดออกกำลังกายง่าย ๆ ในออฟฟิศ

  • เปลี่ยนลิฟต์เป็นบันได: เลือกใช้บันไดแทนลิฟต์ ช่วยให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง เผาผลาญพลังงาน และยังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต
  • ลุกขึ้นยืนทุก 30 นาที: นั่งทำงานนาน ๆ ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ ลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสาย เดินไปรอบ ๆ หรือทำท่าบริหารร่างกายเบา ๆ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการปวดเมื่อย
  • ยืดเหยียดระหว่างทำงาน: หาเวลาว่างระหว่างวัน ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น ลดอาการตึง และป้องกันออฟฟิศซินโดรม
  • เดินไปคุยงานแทนการโทร: แทนที่จะโทรหาเพื่อนร่วมงาน ลุกขึ้นเดินไปคุย เป็นการเพิ่มกิจกรรม เผาผลาญพลังงาน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
  • พักกลางวันแบบแอคทีฟ: แทนที่จะนั่งทานอาหารกลางวันเฉย ๆ ลองออกไปเดินเล่น หรือทำกิจกรรมเบา ๆ ช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน และรู้สึกสดชื่น
  • เข้าร่วมกิจกรรมออกกำลังกายของออฟฟิศ: หลาย ๆ ออฟฟิศมีกิจกรรมออกกำลังกายสำหรับพนักงาน เช่น โยคะ แอโรบิค ลองเข้าร่วม เป็นการผ่อนคลาย สนุกสนาน และได้ออกกำลังกายไปพร้อมกัน

การออกกำลังกายตามช่วงอายุ

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในออฟฟิศแล้ว การเลือกประเภทการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับช่วงอายุ ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพ และช่วยให้สนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น

  • วัยรุ่น: เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ พัฒนาความแข็งแรง เช่น วิ่ง เล่นกีฬา เข้าฟิตเนส
  • วัยผู้ใหญ่: เน้นการรักษาสุขภาพ เพิ่มความแข็งแรง เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน โยคะ
  • วัยสูงอายุ: เน้นการยืดเหยียด รักษาสมรรถภาพ เช่น เดิน โยคะ ไทชิ

การออกกำลังกายที่ดี ควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เลือกกิจกรรมที่ชอบ ทำอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญ อย่าลืมวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย และยืดเหยียดหลังออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

3. ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์

การพยายามลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและดีต่อสุขภาพอย่างมาก

แอลกอฮอล์ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง ดังนี้

  • ระบบไหลเวียนโลหิต: แอลกอฮอล์จะไปขัดขวางการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้น้อยลง ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
  • ระบบประสาท: แอลกอฮอล์จะไปกดประสาท ทำให้เกิดอาการมึนเมา สูญเสียการทรงตัว พูดไม่ชัด และอาจนำไปสู่ปัญหาระยะยาว เช่น สมองเสื่อม
  • ระบบย่อยอาหาร: แอลกอฮอล์จะไประคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • ระบบตับ: แอลกอฮอล์เป็นพิษต่อตับ ทำให้เกิดโรคตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับ
  • ระบบสืบพันธุ์: แอลกอฮอล์ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศ ทำให้มีปัญหาเรื่องความสมรรถภาพทางเพศ
  • มะเร็ง: การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปาก คอ หลอดอาหาร ตับ เต้านม และลำไส้ใหญ่

การเลิกดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ และช่วยให้มีชีวิตยืนยาว

หากคุณต้องการเลิกดื่มแอลกอฮอล์ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยคุณได้ เช่น

  • ปรึกษาแพทย์: แพทย์สามารถให้คำแนะนำและแนวทางการเลิกดื่ม
  • เข้ากลุ่มช่วยเหลือ: กลุ่มช่วยเหลือมีสมาชิกที่เคยผ่านประสบการณ์การดื่มแอลกอฮอล์ และสามารถให้กำลังใจ แนวทาง และคำแนะนำในการเลิกดื่ม
  • หาแรงบันดาลใจ: หาเหตุผลและแรงบันดาลใจในการเลิกดื่ม เช่น เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อครอบครัว หรือเพื่ออนาคต
  • ตั้งเป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเลิกดื่ม เช่น จะเลิกดื่มภายใน 1 เดือน หรือจะลดปริมาณการดื่มลง
  • หาสิ่งทดแทน: หากิจกรรมอื่น ๆ ทำแทนการดื่ม เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมสันทนาการ

การเลิกดื่มแอลกอฮอล์อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณมีความตั้งใจจริง และมีวิธีการที่เหมาะสม คุณก็สามารถเลิกดื่มและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

4. ดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดี

เพราะน้ำคือชีวิต การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว สดชื่น และมีพลังตลอดทั้งวัน โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ดื่มน้ำให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน (ประมาณ 2 ลิตร) แต่ปริมาณที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับระดับการทำกิจกรรม สภาพอากาศ และสุขภาพโดยรวม

ประโยชน์ของการดื่มน้ำ

  • ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น
  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง
  • ช่วยลดความอยากอาหาร
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น นิ่วในไต ท้องผูก โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง

วิธีดื่มน้ำให้มากขึ้น

  • พกขวดน้ำติดตัวไปด้วย เพื่อจิบน้ำระหว่างวัน
  • ตั้งเป้าหมายการดื่มน้ำ เช่น ดื่มให้ได้ 1 แก้วทุกๆ 1 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 30 นาที เพื่อช่วยให้อิ่มเร็วและกินได้น้อยลง
  • เติมรสชาติให้น้ำเปล่าด้วยผลไม้สด เช่น มะนาว แตงกวา ใบสะระแหน่
  • ดื่มน้ำสมุนไพร ชา หรือน้ำผลไม้
  • เลือกกินอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น ผัก ผลไม้ ซุป

การดื่มน้ำให้เพียงพอ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้สุขภาพดี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา

5. นั่งทำงานในท่าทางที่ถูกต้อง

การนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ ส่งผลต่อร่างกายของเราโดยเฉพาะบริเวณคอ ไหล่ และกระดูกสันหลัง การรักษาท่าทางการนั่งที่ถูกต้องและยืดเส้นยืดสายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยและความตึงเครียดได้

หลักการนั่งทำงานที่ถูกต้อง

  • เก้าอี้: เลือกเก้าอี้ที่รองรับสรีระ ปรับระดับความสูงให้ต้นขาขนานกับพื้น วางเท้าราบกับพื้นหรือที่พักเท้า
  • โต๊ะ: ปรับระดับโต๊ะให้แขนทำมุม 90 องศากับพื้น ข้อศอกควรวางบนโต๊ะได้อย่างสบาย
  • จอคอมพิวเตอร์: ปรับระดับให้ขอบบนของจออยู่ระดับสายตา ห่างจากหน้าประมาณ 18-24 นิ้ว
  • คอ: ตั้งคอตรง ศีรษะตั้งตรง ไม่ก้มหรือเงยหน้า
  • ไหล่: ผ่อนคลายไหล่ ไม่ห่อไหล่
  • หลัง: นั่งหลังตรง ชิดกับพนักเก้าอี้

การยืดเส้นยืดสาย

  • ควรลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 30-60 นาที

ตัวอย่างท่ายืดเส้นยืดสาย

  • ยืดคอ: ก้มคอแตะคางลงบนอก ค้างไว้ 10 วินาที
  • ยืดไหล่: ยกไหล่ขึ้น หายใจเข้า กลั้นไว้ 5 วินาที ผ่อนคลาย
  • ยืดหลัง: ลุกขึ้นยืน ก้มตัวลงแตะปลายเท้า ค้างไว้ 10 วินาที
  • ยืดขา: นั่งเหยียดขาตรง งอปลายเท้าไปด้านหน้า ค้างไว้ 10 วินาที

การปรับท่าทางการนั่งทำงานที่ถูกต้องและยืดเส้นยืดสายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน และช่วยให้มีสุขภาพที่ดี

สุขภาพวัยทำงาน เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

ในยุคปัจจุบัน วัยทำงานต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ส่งผลต่อสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในวัยทำงาน

  • โรคออฟฟิศซินโดรม: เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ท่าทางไม่เหมาะสม ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบไหลเวียนโลหิต
  • โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง: เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง มักเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร ออกกำลังกายไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียด
  • โรคทางจิต: เช่น ภาวะเครียด ภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า เกิดจากความกดดันในการทำงาน ปัญหาส่วนตัว และความไม่สมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว
สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียด การทำงานหนัก และความท้าทายต่าง ๆ มากมาย มีเทคนิคดูแลสุขภาพที่ดีจะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุข และลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ

ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์

Share:

ความคิดเห็น

ประกาศที่เกี่ยวข้อง

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน การที่พนักงานหมดไฟจากการทำงาน เป็นได้หลายสาเหตุด้วยกัน โดยทาง…
บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพที่ดีมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเข้าทำงานจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว การมีทักษะที่เหมาะสมและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นควรพัฒนาบุคลิกภาพให้เหมาะสมพร้อมกับทักษะในสายงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในองค์กร โดยในวันนี้ PartTimeTH…
วิธีรับมือคน Toxic ในสถานที่ทำงาน ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

วิธีรับมือคน Toxic ในสถานที่ทำงาน ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

ในสถานที่ทำงาน หลายคนอาจพบเจอกับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ทำให้บรรยากาศการทำงานตึงเครียด และส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้อื่น คนเหล่านี้ถูกเรียกว่า “คน Toxic”…

หัวข้อ

ประกาศล่าสุด

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…
[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…

บทความล่าสุด

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน การที่พนักงานหมดไฟจากการทำงาน เป็นได้หลายสาเหตุด้วยกัน โดยทาง…
บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพที่ดีมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเข้าทำงานจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว การมีทักษะที่เหมาะสมและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นควรพัฒนาบุคลิกภาพให้เหมาะสมพร้อมกับทักษะในสายงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในองค์กร โดยในวันนี้ PartTimeTH…