เมื่อเจอกับความรู้สึกว่ายังไม่เจองานที่ใช่ เราควรทำอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าคิดหากเงินเดือนของบริษัทนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่การมีงานที่ดีนับว่าโชคดีกว่าการมีเงินเดือนที่สูง หลายคนที่ไม่มีงานทำอาจมองว่าคนที่มีงานอยู่แล้วเป็นคนโชคดี แต่ใครจะรู้ว่าความรู้สึกนั้นอาจจะเปลี่ยนไป เมื่อเราทำงานผ่านไปสักพักว่างานนี้ใช่สำหรับเราหรือยัง วันนี้ PartTimeTH เรามีข้อแนะนำสำหรับคุณที่กำลังสงสัยว่างานที่คุณกำลังทำอยู่นั้นใช่สำหรับคุณหรือไม่
5 สิ่งที่ควรทำเมื่อยังไม่เจองานที่ใช่
1. ลองปรับตัว
หากคุณพบว่าคุณต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นงานที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่ หรือเป็นงานที่คุณไม่แน่ใจว่าชอบหรือไม่ สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรทำคือการปรับตัวกับงาน เพื่อนร่วมงาน และสังคมใหม่ ๆ ที่คุณต้องเจอในการทำงาน
การปรับตัวนี้ไม่ใช่เพียงแค่การทำงานตามหน้าที่ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวกับเพื่อนร่วมงานที่คุณอาจไม่คุ้นเคย และการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ที่คุณต้องเจอด้วยตัวเอง นอกจากนี้ คุณยังต้องพบกับเพื่อนร่วมงานต่างเพศ ต่างวัย และต่างนิสัย ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หรือรู้สึกไม่สบายใจ จนทำให้คุณรู้สึกว่า “งานนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ”
การปรับตัวอาจดูเป็นเรื่องยากในตอนแรก แต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดีขึ้น ลองให้เวลากับตัวเองในการปรับตัวและพยายามทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณยังรู้สึกไม่ดีขึ้นหลังจากลองปรับตัวแล้ว ลองวิธีที่สองกันต่อเลย
2. เปลี่ยนความคิดใหม่ว่าเราทำได้
เมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นงานใหม่ หน้าที่ใหม่ หรือสถานที่ใหม่ มันไม่ง่ายที่จะรู้สึกว่าทุกอย่างนั้นราบรื่นไปหมดเหมือนที่คาดหวังไว้ การเจอปัญหาหรือความผิดพลาดบ่อย ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายและคิดว่าคุณไม่เหมาะกับงานนั้น ๆ สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือเปลี่ยนวิธีคิดและปรับทัศนคติ ด้วยการบอกตัวเองว่า “เราทำได้” การใช้คำพูดที่ให้กำลังใจตนเองแบบนี้จะช่วยเปลี่ยนความรู้สึกเหนื่อยหน่ายให้กลายเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ในทุกวันที่ทำงาน
ผู้ที่เริ่มงานใหม่ ไม่ว่าจะเพิ่งจบการศึกษาหรือเปลี่ยนงานใหม่ มักจะเจอปัญหาและต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การผิดพลาดในงานคือประสบการณ์ที่จะช่วยสอนให้คุณเก่งขึ้น แต่ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้นและพยายามแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดทำให้คุณท้อใจ ท้ายที่สุด งานที่คุณคิดว่าเป็นปัญหามากที่สุด อาจกลายเป็นงานที่ “ใช่” สำหรับคุณก็ได้ แต่ถ้าหากคุณยังรู้สึกว่า “ไม่ใช่” ให้ลองวิธีอื่นต่อไปได้เลย
3. สร้างกิจกรรมที่ชอบ
หากคุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานประจำ ลองทำกิจกรรมที่คุณชอบควบคู่กับงานอาจช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้น การเลือกทำสิ่งที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกหรือการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เป็นวิธีที่ดี ที่จะช่วยลดความเบื่อหน่ายจากการทำงาน คุณอาจจัดสรรเวลางานและเวลาว่างอย่างสมดุล เพื่อให้มีเวลาทำกิจกรรมที่คุณสนใจ อาจเป็นการออกกำลังกาย การวาดภาพ การเล่นดนตรี หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
การมีกิจกรรมที่คุณชอบทำสามารถช่วยให้ชีวิตคุณมีความสมดุลมากขึ้น และยังช่วยให้คุณค้นพบสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการทำงานด้วย ในบางครั้ง งานอดิเรกที่คุณรักอาจกลายเป็นงานหลักที่คุณต้องการทำในอนาคตก็ได้ ดังนั้น หากคุณยังไม่แน่ใจว่างานที่ทำอยู่ใช่สำหรับคุณหรือไม่ ลองหากิจกรรมที่ชอบและพยายามสร้างสมดุลระหว่างงานและเวลาส่วนตัว เพราะสิ่งนี้อาจเป็นกุญแจที่ช่วยให้คุณค้นพบเส้นทางที่คุณต้องการได้
4. เรียนรู้จากโอกาส เพื่อเดินหน้าต่อ
โอกาสในการทำงานเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นกำไรชีวิต คุณควรนึกไว้เสมอว่าการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานที่คุณไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เป็นขั้นตอนหนึ่งในการก้าวไปข้างหน้า การเรียนรู้จากงานใหม่ ๆ ข้อผิดพลาดใหม่ ๆ และคำแนะนำจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน เป็นประสบการณ์ที่มีค่าที่จะช่วยให้คุณเติบโตและก้าวไปได้เร็วขึ้น
หากคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีโอกาสในการเรียนรู้ อย่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ใช้ประโยชน์ คำแนะนำและคำติชมจากคนที่มีประสบการณ์อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองและทำงานได้ดีขึ้น หากคุณสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและใช้คำแนะนำเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่างานปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ อย่ากลัวที่จะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือมองหางานอื่น ๆ ที่อาจตรงกับความสนใจและความต้องการของคุณมากกว่า การกล้าที่จะก้าวออกไปเพื่อหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างเส้นทางชีวิตที่ดี
5. เปลี่ยนงานใหม่
การเปลี่ยนงานอาจเป็นตัวเลือกสุดท้ายเมื่อคุณรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ หรือไม่ตอบสนองต่อความต้องการและความสุขของคุณ แต่การเปลี่ยนงานนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและอนาคตของคุณ การเปลี่ยนงานอาจนำมาซึ่งสิ่งที่ดี เช่น โอกาสใหม่ ๆ รายได้ที่เพิ่มขึ้น หรือความท้าทายที่น่าสนใจ แต่ในทางกลับกัน อาจมีสิ่งที่ไม่ดี เช่น ความไม่แน่นอน การเริ่มต้นใหม่ที่ไม่คุ้นเคย หรือการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่
ทุกครั้งที่คุณคิดเรื่องการเปลี่ยนงาน ขอให้คุณคิดให้ถี่ถ้วนถึงเหตุผลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คุณอาจต้องพิจารณาเรื่องความมั่นคงทางการเงิน โอกาสในการพัฒนาทักษะ ความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณมั่นใจว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ คุณก็ไม่ควรกลัวที่จะก้าวออกไปหาสิ่งใหม่ ๆ แต่ควรตัดสินใจอย่างรอบคอบและมีเหตุผล เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นำมาซึ่งสิ่งที่ดีสำหรับคุณในระยะยาว
ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์