3 หลักการแก้ปัญหาของคนวัยทำงาน

1. มองปัญหาให้ออก

การค้นหาเอกลักษณ์ของปัญหาเป็นขั้นตอนแรกในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าหลายปัญหาอาจมีความคล้ายคลึงกัน แต่การแก้ปัญหาแบบเดียวกันไม่ได้เหมาะกับทุกสถานการณ์ การตอบคำถามด้วยคำตอบเดียวสำหรับทุกปัญหาย่อมไม่ใช่ทางที่ดี บริษัทจึงควรส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้ที่จะมองและค้นหาเอกลักษณ์ของปัญหาอย่างรอบด้าน เพื่อให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการฝึกฝนพนักงานให้มีความสามารถในการแก้ปัญหา บริษัทต้องกระตุ้นให้พนักงานรับรู้ว่าแม้ในความคล้ายคลึงของปัญหา จะมีความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ และความแตกต่างเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้การแก้ปัญหามีความหลากหลาย การยึดติดกับคำตอบเดิมอาจทำให้เราแก้ปัญหาได้ไว แต่จะไม่เหมาะกับทุกสถานการณ์

2. มองปัญหาให้ไกลกว่าเดิม

การมองปัญหาให้ใหญ่และไกลกว่าเดิมเป็นวิธีที่กระตุ้นให้สมองของเราคิดแก้ปัญหาในระดับที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น หากเรามองปัญหาเพียงแค่ในกรอบแคบ ๆ เราอาจไม่ได้มองเห็นทางแก้ที่เหมาะสมในอนาคต การขยายกรอบการมองปัญหาเป็นการกระตุ้นให้เรามองหาคำตอบที่มากกว่าที่เคยเป็นอยู่ และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การมองปัญหาให้ใหญ่ขึ้นช่วยให้เราไม่หยุดเพียงแค่การแก้ปัญหาเบื้องต้น แต่ยังทำให้เราพิจารณาความเป็นไปได้ต่าง ๆ ที่อาจตามมา เช่น การคิดเผื่อว่าปัญหาอาจเกิดตามมาอีกหรือมีผลกระทบที่กว้างขึ้น หากเราสามารถคาดการณ์และเตรียมตัวรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เราก็จะมีความพร้อมในการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริงได้มากขึ้น

การให้ความสำคัญกับคำว่า “ถ้า” เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารู้จักการเตรียมตัวและการทุ่มเทกับการแก้ปัญหามากยิ่งขึ้น เราสามารถเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

3. แก้ปัญหาแบบเป็นระบบ

การจัดระบบในการแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้กระบวนการแก้ปัญหามีความเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่เพียงแค่การทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่ยังช่วยให้พนักงานสามารถคิดและแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ ในการแก้ปัญหาเราควรเริ่มจากการมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่ใหญ่กว่าเสมอ และเมื่อเราสามารถแก้ปัญหาหนึ่งได้ มันอาจเป็นการช่วยคลายความตึงเครียดของปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปได้ด้วย

ในการแก้ปัญหา เราต้องการระบบที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหมายความว่าการแก้ปัญหาต้องถูกดำเนินการอย่างเป็นลำดับขั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบสุ่มหรือใช้ความรู้สึก เพื่อให้การแก้ปัญหามีทิศทางและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น การจัดระบบอาจเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและวิเคราะห์อย่างละเอียด แต่ในบางกรณี การพึ่งพาข้อมูลมากเกินไปอาจทำให้เราไม่สามารถมองหาวิธีแก้ปัญหาแบบใหม่ ๆ หรือคิดนอกกรอบได้

ความสำเร็จในการแก้ปัญหาอาจไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำตามวิธีเดิม ๆ ที่เคยใช้มาแล้ว หากเราไม่เคยคิดที่จะทดลองแก้ปัญหาในแนวทางที่แตกต่าง หรือหาวิธีการใหม่ ๆ มันอาจทำให้ทักษะในการแก้ปัญหาหยุดนิ่ง ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือการกระตุ้นให้พนักงานได้ทดลองคิดและแก้ปัญหาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้พนักงานใช้วิธีการที่หลากหลายในการแก้ปัญหา

บทสรุปหลักการแก้ปัญหา

การให้คนวัยทำงานมีความมุ่งมั่นในเป้าหมายของการแก้ปัญหา และคาดหวังถึงผลสำเร็จของการแก้ปัญหา จะเป็นตัวกระตุ้นให้เราทุ่มเทและมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น และด้วยการจัดระบบการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เราจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นว่าการแก้ปัญหาจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้ และเมื่อเรากลายเป็นพนักงานที่มีคุณภาพและเป็นที่ไว้วางใจ หัวหน้างานจะเห็นความสามารถจากเราที่จะพาบริษัทเติบโตและประสบความสำเร็จ