อุตสาหกรรมตลาดเครื่องสำอางของไทยมีมูลค่ารวมสูงถึง 2.51 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 66.9% และตลาดส่งออก 33.1% ซึ่งถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่สามารถเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้อย่างแม่นยำ
ภายในประเทศ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกายครองตลาดสูงสุดถึง 46.8% ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม 18.3% เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า 13.5% ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย 16.3% และน้ำหอม 5.1% ตามลำดับ
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตลาดเครื่องสำอางที่น่าจับตามองในปัจจุบัน ได้แก่
1. เด็ก
พ่อแม่ผู้ปกครองรุ่นใหม่เริ่มเปิดกว้างให้บุตรหลานใช้เครื่องสำอางที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับผิวบอบบาง
2. ผู้ชาย
หันมาใส่ใจเรื่องบุคลิกภาพมากขึ้น โดยนิยมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและน้ำหอมที่ใช้กันทั่วไป
3. ผู้สูงอายุ
มีกำลังซื้อและความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ต่อต้านริ้วรอย รวมถึงดูแลเส้นผม เพื่อเสริมบุคลิกภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
4. ตลาดมุสลิม
อุตสาหกรรมเครื่องสำอางสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม อาทิ สินค้าดูแลเส้นผมสำหรับผู้ชาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวสำหรับเด็ก ฯลฯ
5. นักท่องเที่ยว
เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องสำอางของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ราคาจึงไม่แพงเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
แน่นอนว่าการเติบโตของธุรกิจย่อมไม่ได้มาง่ายๆ ผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องต่อยอดด้วยกลยุทธ์ต่างๆ เช่น พัฒนานวัตกรรมหรือวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นด้วยการจับตลาดเฉพาะกลุ่ม ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า และสำคัญที่สุดคือการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์และสื่อโซเชียล ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ
ด้วยตลาดที่ใหญ่และกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย จึงเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทยที่จะขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเอสเอ็มอีที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มได้อย่างแม่นยำ
กุญแจสู่ความสำเร็จ
หนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จคือการพัฒนานวัตกรรมและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาวัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ หรือใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับ เช่น วัสดุที่อ่อนโยนต่อผิวของกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ หรือส่วนผสมและขั้นตอนการผลิตที่สอดคล้องกับหลักศาสนาสำหรับตลาดมุสลิม เป็นต้น
นอกจากสร้างความแตกต่างและมาตรฐานด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์แล้ว การสื่อสารการตลาดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม ทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดใจกลุ่มลูกค้า การใช้สื่อโซเชียลและช่องทางออนไลน์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์และโปรโมทสินค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
แม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยได้แสดงศักยภาพด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมและคว้าส่วนแบ่งทางการตลาด หากมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถ่องแท้ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพยายามสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น อุตสาหกรรมเครื่องสำอางที่มีมูลค่าสูงและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี หากสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม เข้าถึงตลาดเฉพาะกลุ่ม และนำกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมมาใช้ได้อย่างชาญฉลาด การพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสทองก็เป็นเรื่องที่ท้าทายแต่ไม่เกินความสามารถแน่นอน
สรุปบทความ
อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทยมีมูลค่ารวมสูงถึง 2.51 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดในประเทศ 66.9% และตลาดส่งออก 33.1% ซึ่งเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่สามารถเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้
กลุ่มเป้าหมายหลักที่น่าสนใจประกอบด้วย เด็ก ผู้ชาย ผู้สูงอายุ ตลาดมุสลิม และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีความต้องการแตกต่างกันไป
เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องพัฒนานวัตกรรมและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ สร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพและการจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดใจ รวมถึงพัฒนาช่องทางออนไลน์และสื่อโซเชียล แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่ก็เป็นโอกาสให้ SMEs ไทยได้แสดงศักยภาพด้วยนวัตกรรมและเข้าถึงส่วนแบ่งทางการตลาด หากมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
โอกาสในการเปิดมุมมองใหม่กับ PartTimeTH จะพาคุณสำรวจอาชีพเสริมและตัวอย่างความสำหร็จที่หลายคนอาจมองข้ามแล้วพบกันในบทความถัดไป ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์