กระทรวงศึกษา (ศธ.) นัดเซ็น MOU กับกระทรวงการคลัง ธนาคารพาณิชย์ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ครู ไม่เกินร้อยละ 4.75 ชะลอการฟ้องล้มละลายครูที่มีหนี้ NPL เป็นระยะเวลา 3 ปี ขยายงวดการผ่อนถึงอายุ 75 ปี และการรวมหนี้รีไฟแนนซ์ ในวันที่ 6 มิ.ย.67
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา (ศธ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ของศธ. เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีหลายสหกรณ์ออมทรัพย์ ทยอยลดดอกเบี้ยลง ตามที่ได้มีการขอความร่วมมือ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ให้เกินร้อยละ 4.75 รวมถึงได้ประสาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ช่วยทำความเข้าใจกับสหกรณ์ฯที่ยังไม่เข้าใจ เชื่อว่า อนาคตสหกรณ์ออมทรัพย์แต่ละแห่งจะทยอยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ช่วยให้ครูมีเงินเหลือมีและมีสภาพคล่องมากขึ้น
สรุปวันเซ็น MOU แก้หนี้ครู 6 มิถุนายน นี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. กล่าวต่อว่า ในวันที่ 6 มิถุนายน 2567 จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือหรือ เอ็มโอยู แก้ไขปัญหาหนี้สินครู กับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย
“หลายสหกรณ์ฯ มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หลายแห่งเริ่มหักเงินเดือนชำระหนี้ โดยให้ครูมีเงินเหลือใช้ในชีวิตประจำวันร้อยละ 30 ของเงินเดือนแล้ว ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้มีสภาพคล่องมากขึ้น ส่วนความคืบหน้าเรื่องการนำข้อมูลสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศเข้าเครดิตบูโร เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของผู้กู้แต่ละราย ประกอบการพิจารณาปล่อยกู้
เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูลการกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์จะไม่ปรากฏในฐานข้อมูลเครดิตบูโร นั้น ภายหลังมีการเจรจากับสหกรณ์ออมทรัพย์มาต่อเนื่อง ส่งผลให้ขณะนี้หลายแห่งยอมเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครดิตบูโรแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูล ต่อไปสถาบันการเงินก็จะไม่มีการปล่อยกู้ที่เกินศักยภาพของผู้กู้ แก้ปัญหาการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ยอมรับว่า การแก้ปัญหาหนี้สินครูเป็นเรื่องยาก แต่ก็พยายามจะวางแนวทางต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนมากที่สุด” นายสุรศักดิ์ กล่าว
ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ PartTimeTH และ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์