วิธีทำงานให้มีความสุข ควรทำอย่างไรเพื่อตนเอง ?
1. อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
การกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่หลายคนประสบอยู่ การคิดถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นอาจทำให้เรารู้สึกวิตกกังวลและเครียดมากกว่าที่ควร การลดความกังวลนี้สามารถช่วยให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จมากขึ้น นี่คือบางเหตุผลที่การเลิกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ
1. ลดความเครียดและวิตกกังวล: การคิดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นมักจะนำไปสู่ความเครียดและวิตกกังวลที่ไม่มีประโยชน์ การอยู่กับปัจจุบันและทำสิ่งที่สามารถควบคุมได้จะช่วยลดความเครียดได้มากขึ้น
2. เพิ่มความสุขในปัจจุบัน: การมุ่งมั่นกับปัจจุบันช่วยให้เราสัมผัสกับความสุขที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ต้องพลาดโอกาสที่จะสนุกกับสิ่งที่กำลังทำหรือประสบการณ์ที่ดีในชีวิต
3. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: เมื่อเราไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราสามารถใส่ใจและมีสมาธิกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง: การเลิกกังวลกับอนาคตและเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น
5. พัฒนาสุขภาพจิต: การเลิกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเครียดหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและทำในสิ่งที่สามารถควบคุมได้ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เราควรเตรียมตัวเตรียมใจสู้กับทุกเรื่องที่จะเข้ามาโดยไม่ต้องกังวลเกินไป และใช้ชีวิตให้เต็มที่ในทุกๆ วัน
2. ลดการเป็นคนสมบูรณ์แบบ
การลดความพยายามที่จะทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ (perfectionism) สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขในชีวิตได้มากขึ้นจริงๆ นี่เป็นเหตุผลบางประการที่การปล่อยวางเรื่องความสมบูรณ์แบบสามารถทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้
1. ลดความเครียดและความกังวล: เมื่อเราตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป มันอาจทำให้เรารู้สึกกดดันและเครียด การลดความคาดหวังของตนเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
2. เพิ่มประสิทธิภาพ: การพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบอาจทำให้เราเสียเวลาไปกับรายละเอียดที่ไม่จำเป็น การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถจัดการเวลาและงานได้ดีขึ้น
3. เพิ่มความสุขและพึงพอใจ: เมื่อเราปล่อยวางความสมบูรณ์แบบ เราจะมีโอกาสสัมผัสกับความสุขและพึงพอใจในสิ่งที่เราทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนที่จะรู้สึกดี
4. เปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์: ความสมบูรณ์แบบอาจทำให้เรากลัวความผิดพลาด ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความคิดสร้างสรรค์ การยอมรับว่าผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้จะช่วยให้เรามีความคิดใหม่ๆ และสร้างสรรค์มากขึ้น
5. พัฒนาความสัมพันธ์: ความสมบูรณ์แบบอาจทำให้เราคาดหวังสูงเกินไปจากผู้อื่นด้วย การยอมรับความไม่สมบูรณ์ของตนเองและผู้อื่นจะช่วยให้ความสัมพันธ์มีความสุขและยืนยาวขึ้น
การเป็นคนยืดหยุ่นและยอมปล่อยวางในบางเรื่องจะทำให้เรามีชีวิตที่สมดุลและมีความสุขมากขึ้น
3. ใจดีกับตนเอง ให้กำลังใจตนเองบ้าง
การให้กำลังใจตัวเองเหมือนให้กำลังใจคนที่เรารักเป็นวิธีที่ดีมากในการดูแลสุขภาพจิตและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ลองคิดดูว่าเมื่อเราปลอบเพื่อนที่ทำผิดพลาด เรามักจะใช้คำพูดที่อ่อนโยนและสร้างสรรค์ วิธีนี้สามารถนำมาใช้กับตัวเราเองได้เช่นกัน นี่คือบางวิธีที่สามารถทำได้
1. พูดกับตัวเองด้วยความเมตตา: แทนที่จะตำหนิตัวเอง ลองพูดกับตัวเองด้วยคำพูดที่อ่อนโยน เช่น “ไม่เป็นไร ทุกคนก็มีวันที่ไม่ดี” หรือ “ครั้งหน้าฉันจะทำได้ดีกว่านี้”
2. ยอมรับความผิดพลาด: ความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ลองยอมรับและเรียนรู้จากมัน แทนที่จะจมอยู่กับความเสียใจ ให้คิดว่าความผิดพลาดนั้นเป็นโอกาสในการเติบโต
3. ให้เวลากับตัวเอง: เมื่อเราทำผิดพลาด เรามักจะกดดันตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยเร็ว ลองให้เวลากับตัวเองในการฟื้นฟูจิตใจและร่างกาย เหมือนที่เราจะให้เวลากับเพื่อนที่กำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก
4. หาสิ่งที่ดีในตัวเอง: แทนที่จะจดจ่อกับความผิดพลาด ลองหาสิ่งที่ดีในตัวเองและสิ่งที่ทำได้ดี แล้วชื่นชมตัวเองในสิ่งนั้น เหมือนที่เราจะชื่นชมเพื่อนในสิ่งที่เขาทำได้ดี
5. สร้างแผนการแก้ไข: เมื่อเราให้คำแนะนำกับเพื่อน เรามักจะช่วยเขาหาวิธีแก้ไขปัญหา ลองทำเช่นเดียวกันกับตัวเอง สร้างแผนการแก้ไขและมองหาวิธีที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นในครั้งถัดไป
6. ขอความช่วยเหลือ: เมื่อเรารู้สึกท้อแท้ เรามักจะบอกเพื่อนให้ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ลองทำเช่นเดียวกันกับตัวเอง อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารักหรือผู้เชี่ยวชาญเมื่อเรารู้สึกต้องการ
การดูแลจิตใจตัวเองด้วยวิธีที่เราดูแลเพื่อนจะทำให้เรามีความสุขและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ลองใช้วิธีนี้ในการดูแลตัวเองทุกวัน
4. ลดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
การลดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเป็นเรื่องที่สำคัญในการสร้างสุขภาพจิตที่ดีและเพิ่มความพึงพอใจในตัวเอง การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมักทำให้เรารู้สึกไม่ดีและทำลายความมั่นใจ นี่คือบางวิธีที่สามารถช่วยลดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้
1. ระลึกถึงคุณค่าของตัวเอง: ทุกคนมีข้อดีและคุณค่าในตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ลองระลึกถึงความสำเร็จและคุณสมบัติที่ดีของตัวเอง และชื่นชมสิ่งเหล่านั้น
2. กำหนดเป้าหมายของตัวเอง: แทนที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ลองกำหนดเป้าหมายที่เป็นของตัวเอง และทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามุ่งมั่นและไม่ต้องห่วงกับสิ่งที่คนอื่นทำ
3. หยุดเปรียบเทียบบนสื่อสังคมออนไลน์: สื่อสังคมออนไลน์มักจะเป็นแหล่งที่ทำให้เรารู้สึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ลองลดเวลาในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์หรือเลือกติดตามคนที่ให้แรงบันดาลใจในทางที่ดี
4. ฝึกการมีความกตัญญู: ลองฝึกการมีความกตัญญูในสิ่งที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือใหญ่โต การระลึกถึงสิ่งที่เรามีและรู้สึกขอบคุณจะช่วยให้เรารู้สึกพอใจในชีวิตมากขึ้น
5. มองหาความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง: ทุกคนมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ลองมองหาสิ่งที่ทำให้เราพิเศษและยินดีกับสิ่งนั้น
6.เปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต: แทนที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ลองเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองในอดีต ดูว่าเราเติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างไร จะทำให้เรามีความภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง
7. มีความเข้าใจในความแตกต่าง: เข้าใจว่าทุกคนมีเส้นทางและจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจึงไม่เป็นธรรมชาติและไม่เป็นประโยชน์
การลดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นจะช่วยให้เรามีความสุขและพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น ลองปรับมุมมองและให้ความสำคัญกับคุณค่าของตัวเองมากขึ้น
5. เลิกใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่น
การเลิกใช้ชีวิตตามความคาดหวังของคนอื่นเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เรามีความสุขและพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น นี่คือบางวิธีที่สามารถช่วยให้เรากล้าใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ
1. รู้จักตัวเองให้ดียิ่งขึ้น: ลองสำรวจและรู้จักความฝัน ความต้องการ และค่านิยมของตัวเอง ถามตัวเองว่าเราต้องการอะไรจริง ๆ และอะไรที่ทำให้เรามีความสุข
2. ตั้งเป้าหมายที่เป็นของตัวเอง: กำหนดเป้าหมายที่สอดคล้องกับความฝันและความต้องการของตัวเอง การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามุ่งมั่นและไม่ถูกเบี่ยงเบนไปตามความคาดหวังของคนอื่น
3. กล้าที่จะปฏิเสธ: การปฏิเสธคำขอหรือความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของเราเป็นสิ่งสำคัญ กล้าที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพและมั่นใจในสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ
4. ปล่อยวางความคิดจากคนอื่น: ความคิดและความคิดเห็นของคนอื่นไม่ควรมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในชีวิตของเรา โดยเฉพาะจากคนที่เราไม่รู้จักหรือไม่สนิทสนม
5. หาแรงบันดาลใจจากภายใน: มองหาแรงบันดาลใจและความสุขจากภายในตัวเอง แทนที่จะมองหาจากภายนอก การหาแรงบันดาลใจจากภายในจะช่วยให้เรามีความสุขและพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น
6. สนับสนุนตัวเอง: เป็นกำลังใจให้ตัวเองและเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง พยายามรับฟังเสียงภายในและทำตามความฝันของตัวเอง
7. สร้างชีวิตที่สอดคล้องกับค่านิยมของตัวเอง: การใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับค่านิยมและความเชื่อของตัวเองจะทำให้เรารู้สึกพึงพอใจและมีความสุขมากขึ้น
8. ยอมรับว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้: การทำตามความฝันของตัวเองอาจจะมีความเสี่ยงและความผิดพลาด แต่ทุกความผิดพลาดคือโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต
การใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการเป็นการสร้างความสุขและความพึงพอใจที่ยั่งยืน อย่าให้ความคิดและความคาดหวังของคนอื่นมามีอิทธิพลกับชีวิตของเรามากเกินไป กล้าใช้ชีวิตในแบบที่เราฝันไว้ แล้วเราจะพบว่าความสุขที่แท้จริงมาจากการทำตามความต้องการและความฝันของตัวเอง