ทำงานหนักเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
เทคนิคปรับพฤติกรรมสำหรับคนชอบทำงานหนัก
การปรับพฤติกรรมในการทำงานอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับหลายคนที่เคยชินกับการทำงานหนัก แต่การปรับเปลี่ยนทีละน้อยด้วยวิธีการต่อไปนี้จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเครียดได้
จัดลำดับความสำคัญของงานอย่างมีระบบ
การจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันลงในกระดาษโน้ตหรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถเห็นได้ชัดเจน ช่วยให้เราสามารถเรียงลำดับการทำงานตามความสำคัญได้ โดยเริ่มจากงานที่เร่งด่วนและสำคัญที่สุดก่อน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีระเบียบและไม่พลาดงานสำคัญ
แบ่งเวลาให้ชัดเจนระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว
การไม่ตรวจเช็กอีเมลหรือรับโทรศัพท์เรื่องงานหลังเวลาเลิกงาน จะช่วยลดความเครียดจากการทำงานนอกเวลาและช่วยให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ส่งผลให้มีพลังงานในการทำงานในวันถัดไป
กำหนดเวลาพักระหว่างการทำงาน
การทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมงอาจทำให้รู้สึกปวดเมื่อยและเหนื่อยล้า ดังนั้นควรลุกขึ้นเดินเปลี่ยนอิริยาบถ หรือออกไปทานอาหารกลางวันนอกสถานที่ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและกลับมาทำงานด้วยความกระปรี้กระเปร่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและลดความเครียด ควรใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่น ทำกิจกรรมที่ชอบ อยู่กับครอบครัว หรือพบปะพูดคุยกับเพื่อน
ผ่อนคลายความเครียดด้วยกิจกรรมที่ชื่นชอบ
การฝึกสมาธิ เล่นโยคะ และจดบันทึกความรู้สึกในแต่ละวัน เป็นวิธีที่ดีในการผ่อนคลายความเครียดและเพิ่มสมาธิในการทำงาน
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
โดยเฉพาะช่วงก่อนนอน เพราะจะทำให้การนอนหลับไม่เป็นไปตามธรรมชาติและส่งผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน
สื่อสารกับหัวหน้างานหรือฝ่ายบุคคลเมื่อมีปัญหาในการทำงาน
การพูดคุยกับหัวหน้างานหรือฝ่ายบุคคลอย่างชัดเจนเมื่อมีปัญหาในการทำงาน เช่น ได้รับมอบหมายงานมากเกินไปหรือเนื้องานยากเกินความสามารถ จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงานหรือองค์กร