นักจิตวิทยาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตของมนุษย์ พวกเขาทำงานเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจของผู้คนที่กำลังประสบปัญหาทางด้านจิตใจและพฤติกรรม โดยใช้ทฤษฎีและเทคนิคทางจิตวิทยาในการวินิจฉัย ประเมิน และบำบัดรักษา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
บทบาทหน้าที่ของนักจิตวิทยา
1. นักจิตวิทยาคลินิก – ทำงานในโรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อให้การวินิจฉัยและบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ และโรคจิตเวช
2. นักจิตวิทยาการปรึกษา – ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้คนที่กำลังประสบปัญหาในชีวิต เช่น ปัญหาครอบครัว การงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. นักจิตวิทยาพัฒนาการ – ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษย์ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละช่วงวัย
4. นักจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กร – ทำงานในองค์กรเพื่อช่วยเหลือในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่เหมาะสม และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน
ทักษะสำคัญของนักจิตวิทยา
1. ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)
2. ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening)
3. ความรู้ทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้านจิตวิทยา
4. ความปรารถนาดีและมีจิตสำนึกในการช่วยเหลือผู้อื่น
แนวโน้มอาชีพนักจิตวิทยาในอนาคต
ในอนาคต นักจิตวิทยาอาจต้องทำงานร่วมกับสาขาอาชีพใหม่ๆ เช่น ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักออกแบบUI/UX นักวิจัยประสบการณ์ผู้ใช้ ผู้สร้างสรรค์เนื้อหา นักวิเคราะห์ธุรกิจ และนักการตลาดดิจิทัล เนื่องจากองค์กรและธุรกิจต่างๆ ให้ความสำคัญกับจิตวิทยาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการบริหารจัดการบุคลากร นอกจากนี้ อาจมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น ผู้บริหารฝ่ายรับฟังความคิดเห็น (Chief Listening Officer) หรือผู้บริหารฝ่ายสร้างความสุข (Chief Joy Officer)
เพื่อประกอบอาชีพนักจิตวิทยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จำเป็นต้องจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาจิตวิทยาเป็นอย่างน้อย และผ่านการฝึกงานหรือปฏิบัติงานจริงตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด แต่สำหรับการเป็นนักจิตวิทยาประจำและประกอบวิชาชีพนักจิตวิทยาได้อย่างเต็มรูปแบบนั้น จะต้องจบการศึกษาในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกในสาขาจิตวิทยาคลินิกหรือจิตวิทยาการปรึกษา โดยมีขั้นตอนดังนี้
นักจิตวิทยาจบอะไรมาถึงเป็นได้
1. ปริญญาตรีสาขาจิตวิทยา
เป็นพื้นฐานการศึกษาขั้นแรกสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพด้านจิตวิทยา หลักสูตรปริญญาตรีด้านจิตวิทยาจะครอบคลุมเนื้อหาทั้งทางด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาบุคลิกภาพ จิตวิทยาสังคม จิตวิทยาอุตสาหกรรม เป็นต้น
2. ปริญญาโทสาขาจิตวิทยาคลินิกหรือจิตวิทยาการปรึกษา
หลังจบปริญญาตรี ผู้ที่ต้องการเป็นนักจิตวิทยาประจำต้องศึกษาต่อในระดับปริญญาโท โดยเลือกสาขาจิตวิทยาคลินิกหรือจิตวิทยาการปรึกษา หลักสูตรจะเน้นการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้านการประเมิน การวินิจฉัย และการบำบัดรักษาปัญหาสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังต้องฝึกปฏิบัติงานจริงในคลินิกหรือสถานพยาบาลจำนวนหนึ่ง
3. ใบประกอบวิชาชีพนักจิตวิทยา
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโท จะต้องสอบเพื่อขอรับใบประกอบวิชาชีพนักจิตวิทยาจากสภาวิชาชีพ ซึ่งจะทำให้สามารถประกอบวิชาชีพนักจิตวิทยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้
4. การฝึกอบรมหลังจบการศึกษา
นอกเหนือจากคุณวุฒิการศึกษาแล้ว นักจิตวิทยาอาจต้องผ่านการฝึกอบรมหลังจบการศึกษาเป็นระยะๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานให้ทันสมัยอยู่เสมอ
สรุปท้ายบทความ
การเป็นนักจิตวิทยาจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาและฝึกฝนทักษะเป็นเวลานาน โดยต้องผ่านการศึกษาระดับปริญญาโททางจิตวิทยาคลินิกหรือจิตวิทยาการปรึกษา และต้องฝึกปฏิบัติงานจริงภายใต้การควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ยังต้องมีการศึกษาต่อเนื่องเพื่อติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคนิคการบำบัดรักษาใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับผู้ที่สนใจอาชีพนักจิตวิทยา ควรมีคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ ความรู้ทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติด้านจิตวิทยา และความปรารถนาดีในการช่วยเหลือผู้อื่น เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานใกล้ชิดกับจิตใจของผู้คน ดังนั้น ความอดทนและความมุ่งมั่นในการเยียวยาจิตใจของผู้ป่วยจึงเป็นสิ่งสำคัญ
โอกาสในการเปิดมุมมองใหม่กับ PartTimeTH จะพาคุณสำรวจอาชีพเสริมและแหล่งรายได้ที่หลายคนอาจมองข้ามแล้วพบกันในบทความถัดไป ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์