การทำงานกับเดดไลน์มักเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนทำงานหลายคน ส่วนใหญ่เรามักจะเจอสถานการณ์ที่ต้องเร่งทำงานให้เสร็จทันเวลานั้น มักจะมีความรู้สึกว่า “ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ควรทำงานให้เสร็จตั้งแต่เนิ่น ๆ” วันนี้ PartTimeTH มีคำแนะนำที่มีประโยชน์สำหรับคนทำงาน เพราะถึงเวลาแล้วที่ต้องลดพฤติกรรมการทำงานแบบเดิม ๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นวิธีที่มีระบบ จัดการงานให้เสร็จตามเวลา และลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุด
1. คิดก่อนทำ
หากพูดถึงการทำงานที่มีเดดไลน์ การวางแผนและการคิดก่อนลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ บางงานเรามีโอกาสที่จะกำหนดเดดไลน์เอง เมื่อมีโอกาสนี้ จงใช้มันอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างทุกฝ่ายว่าแต่ละงานต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด การวางเดดไลน์ที่เร่งรัดเกินไปอาจทำให้งานต้องเร่งรีบโดยไม่จำเป็น และยังส่งผลต่อคุณภาพงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความยืดหยุ่นในเดดไลน์ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา งานบางงานอาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น การคิดวิเคราะห์ให้ดีและสมเหตุสมผลก่อนที่จะตั้งเดดไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างงานที่มีคุณภาพ ในขณะเดียวกันก็ควรที่จะเข้าใจว่างานแต่ละชนิดมีระดับความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสี่ยงในการเผชิญกับเดดไลน์ที่เกินควร
2. วางแผนตั้งเป้าหมาย
เมื่อมีการกำหนดเดดไลน์แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและวางแผนการทำงานอย่างละเอียดรวมถึงข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ คือการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปโดยไม่มองถึงรายละเอียด ทำให้ไม่รู้ว่าโปรเจกต์อยู่ในขั้นตอนใด และต้องทำอะไรอีกบ้างเพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์ การแก้ปัญหานี้คือการกำหนดเป้าหมายย่อย ๆ ในแต่ละขั้นตอนเพื่อที่จะสามารถติดตามความก้าวหน้าได้อย่างใกล้ชิด
การวางแผนแบบนี้จะช่วยให้เห็นภาพรวมของงานและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หากมีงานส่วนไหนที่เสร็จเร็วกว่ากำหนด สามารถโยกเวลาที่เหลือไปยังส่วนอื่นได้ หรือหากมีส่วนที่ล่าช้า ก็สามารถเร่งงานให้เร็วขึ้นได้ตามความจำเป็น นอกจากนี้การตั้งเป้าหมายย่อย ๆ ยังช่วยลดปัญหาการทำงานทับซ้อนและปัญหาคอขวด ทำให้การจัดการงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การวางแผนโดยมีเป้าหมายย่อย ๆ จะช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น สามารถติดตามความก้าวหน้าได้อย่างใกล้ชิด และหากมีปัญหาใด ๆ ก็สามารถแจ้งให้ผู้ที่รับผิดชอบทราบได้ทันที เป็นการสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนและทำให้งานเสร็จตามกำหนดเดดไลน์อย่างราบรื่นมากขึ้น
3. อย่าใช้เดดไลน์เป็นแรงบันดาลใจ
ปัญหาที่หลายคนเจอคือการใช้เดดไลน์เป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มทำงาน อย่างไรก็ตาม การรอจนถึงช่วงเวลาใกล้เดดไลน์มักส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่เครียด ทำงานเร่งรีบ และบางครั้งต้องอดตาหลับอดตานอนเพื่อทำให้งานเสร็จ การใช้วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีในการสร้างงานที่มีคุณภาพและอาจส่งผลต่อสุขภาพ
แทนที่จะรอให้เดดไลน์มากระตุ้น ให้เริ่มทำงานทันทีเมื่อได้รับมอบหมาย รู้ว่าเดดไลน์คือเมื่อไรและใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า การจัดการเวลาอย่างดีและการเริ่มทำงานแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเร่งรีบ ไม่เพียงแค่นั้น ยังช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของงานได้ดีขึ้นและมีโอกาสปรับปรุงแก้ไขได้ทันเวลาถ้าจำเป็น
การทำงานแบบนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ แต่ยังช่วยลดความเครียดและความกังวลที่เกิดจากการทำงานในช่วงเวลาที่จำกัด คุณสามารถใช้เวลาในการสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้งานของคุณมีคุณภาพและตรงตามความต้องการของลูกค้า ดังนั้นจงอย่ารอให้เดดไลน์มาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ให้ใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. ใช้แพลนเนอร์และรายการสิ่งที่ต้องทำ
การใช้แพลนเนอร์และรายการสิ่งที่ต้องทำจะช่วยคุณในการวางแผนงานอย่างมีระบบ ทำให้รู้ว่าควรจะทำอะไรในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อนและป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดจากการหลงลืม นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการฝึกวินัยและการบริหารจัดการเวลาให้กับตัวเอง
เมื่อคุณมีรายการสิ่งที่ต้องทำ คุณสามารถติดตามความก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายดาย นอกจากนี้ การที่คุณมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการเวลา จะทำให้คุณสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความกังวลเกี่ยวกับเดดไลน์ที่ใกล้เข้ามา
ในระยะยาว การใช้แพลนเนอร์และรายการสิ่งที่ต้องทำจะช่วยให้คุณสร้างนิสัยการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้คุณรู้ว่าควรให้ความสำคัญกับอะไร และสามารถจัดการงานได้ตามเดดไลน์โดยไม่ต้องเครียดมากนัก
5. อย่าลืมที่จะเผื่อเวลา
ในการทำงานโปรเจกต์ใหญ่ ๆ ที่ต้องมีการประสานงานกับทีมอื่นหรือผู้ร่วมงานอย่าง Vendor หรือ Supplier บางครั้งความล่าช้าไม่ได้มาจากภายในทีมเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดจากการที่ Vendor หรือ Supplier ไม่สามารถส่งงานหรือวัตถุดิบได้ตามกำหนด เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ ควรทำสัญญาและข้อตกลงกับ Vendor หรือ Supplier ให้ชัดเจนเกี่ยวกับระยะเวลาในการส่งมอบ และควรมีการเผื่อเวลาในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือความล่าช้า
หนึ่งในวิธีที่ดีในการหลีกเลี่ยงความเครียดจากการทำงานคือการไม่รอจนถึงวันสุดท้าย ให้ลองกำหนดเดดไลน์ส่วนตัวก่อนถึงวันเดดไลน์จริงสัก 1-2 วัน เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของงาน หากมีปัญหาหรือข้อผิดพลาด ก็จะมีเวลาพอที่จะทำการแก้ไข นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
การเผื่อเวลาไม่เพียงช่วยลดความเครียดแต่ยังเพิ่มความมั่นใจในการทำงานอีกด้วย การมีเวลาสำรองจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องรีบเร่ง และทำให้งานมีคุณภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทีมและผู้ร่วมงานว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผน ทำให้โปรเจกต์เสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดเวลาที่วางไว้โดยไม่ต้องเผชิญกับความเครียดที่ไม่จำเป็น
6. รู้จักปฏิเสธหรือกระจายงาน
เมื่อพูดถึงการทำงานให้เสร็จทันเวลา หนึ่งในสาเหตุของความล่าช้าคืองานแทรกที่เข้ามาโดยไม่คาดคิด หลายครั้งที่เราไม่สามารถทำงานให้เสร็จตามกำหนด ไม่ใช่เพราะเราทำงานช้า แต่เพราะงานที่ได้รับมีมากเกินไปจนจัดการไม่ไหว การรู้จักปฏิเสธงานแทรกจึงเป็นทักษะที่สำคัญ หากคุณมุ่งเน้นที่งานหลักและทำให้เสร็จก่อน งานอื่นที่แทรกเข้ามาสามารถจัดการได้ภายหลัง ซึ่งจะช่วยลดความกังวลและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การกระจายงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการจัดการงานที่หนักเกินไป การขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีมสามารถทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และช่วยให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างความร่วมมือและเพิ่มความเข้าใจในทีม
เมื่อคุณรู้ว่ามีงานแทรกเข้ามามากเกินไป ให้ประเมินว่างานไหนที่สำคัญและจำเป็นต้องทำก่อน แล้วทำงานเหล่านั้นให้เสร็จก่อนที่จะรับงานใหม่ หากคุณพบว่างานที่รับผิดชอบมากเกินไป อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือหรือกระจายงานให้เพื่อนร่วมงาน การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถทำงานให้เสร็จตามเดดไลน์ แต่ยังช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพของงานอีกด้วย
การรู้จักปฏิเสธและการกระจายงานเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรับมือกับเดดไลน์โดยไม่ต้องเผชิญกับความกดดันมากเกินไป
7. หาทางลัด ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ดี
การหาทางลัดหรือวิธีการที่ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่เพียงช่วยให้คุณทำงานเสร็จทันตามกำหนดเวลา แต่ยังช่วยให้คุณสามารถจัดการงานอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากมีขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนหรือไม่จำเป็น คุณสามารถตัดออกไปหรือใช้เครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาได้ อีกวิธีหนึ่งคือการใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้น
การรู้จักเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากหลาย ๆ ทางเลือกจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนื่อยจนเกินไป คุณสามารถใช้เวลาที่ประหยัดได้ในการปรับปรุงหรือพัฒนางานให้ดีขึ้น หรือนำไปใช้กับงานอื่นที่ต้องการความใส่ใจมากกว่า
ในที่สุด การใช้ทางลัดหรือวิธีที่ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผล จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเครียดจากการทำงาน และทำให้คุณสามารถรักษาคุณภาพของงานได้แม้จะอยู่ภายใต้เดดไลน์ที่ตึงตัว การที่คุณสามารถปรับตัวและหาวิธีการทำงานที่รวดเร็วแต่ได้ผล จะทำให้คุณกลายเป็นผู้ที่สามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
8. แวะพักแต่พอดี
การทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักผ่อนอาจส่งผลเสียมากกว่าดี เพราะร่างกายที่อ่อนล้าและสมองที่เหนื่อยอาจนำไปสู่ความผิดพลาดในการทำงานแทนที่จะช่วยให้เสร็จเร็วขึ้น หากคุณเริ่มรู้สึกหมดพลังหรือสมาธิไม่ดี แนะนำให้หยุดพักสักครู่ เพื่อชาร์จแบตให้กับร่างกายและจิตใจ การพักผ่อนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การพักผ่อนต้องมีความสมดุล ไม่ควรใช้เวลาพักผ่อนกับการเล่น Facebook หรือดู YouTube จนเกินไป เพราะอาจทำให้เสียสมาธิและไม่ช่วยให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่แท้จริง ทางที่ดีคือหาเวลาพักที่สั้นแต่มีคุณภาพ เช่น การยืดเส้นยืดสาย เดินเล่นรอบ ๆ หรือแม้แต่การงีบหลับสั้น ๆ เพื่อคืนความสดชื่น
การเน้นความสมดุลในการพักผ่อนและการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยให้พัก แต่ต้องระวังไม่ให้พักจนเกินไปจนกระทบกับงานที่ต้องทำ หมั่นตรวจสอบว่าคุณได้พักผ่อนเพียงพอหรือไม่ และพยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เสียสมาธิ ในที่สุด การรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเครียดในระยะยาว
ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเหนื่อยจากการทำงาน อย่าลืมหาเวลาพักสั้น ๆ แต่มีคุณภาพ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นตัว แล้วคุณจะพบว่าการทำงานจะกลับมามีประสิทธิภาพและสนุกขึ้น
สรุปเรื่องการทำงานให้เสร็จทันเวลา
เมื่อได้รับคำแนะนำที่ดี ๆ เพื่อปรับใช้ในการทำงานแล้ว ที่เหลือก็คือการลงมือปฏิบัติ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานที่เคยทำให้นอนไม่หลับตอนใกล้เดดไลน์ ให้กลายเป็นการทำงานที่สบาย ๆ ชิล ๆ เมื่อต้องส่งงาน หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องเผชิญกับความเครียดมากเกินไป
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ทำงาน มีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ และประสบความสำเร็จในการทำงาน รวมถึงการบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ จงอย่าลืมว่าการทำงานควรสร้างความสุขและความพึงพอใจ ไม่ใช่ความกดดันและความเครียด การจัดการเวลาที่ดีและการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ
ดังนั้น ขอให้ทุกคนที่ทำงานมีแรงบันดาลใจและพลังในการทำสิ่งดี ๆ ต่อไป และอย่าลืมที่จะดูแลตัวเองทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์