มั่นใจว่าร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากโดนเอาเปรียบในที่ทำงาน การที่คุณเป็นคนใจดีมากเกินไปอาจทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นจุดอ่อน และคนอื่น ๆ อาจใช้ประโยชน์จากมันได้ ดังนั้นควรพยายามรักษาความใจดีของคุณไว้ อย่าเป็นผู้ให้มากจนเกินไป หากคุณเริ่มรู้สึกไม่สบายใจและเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ PartTimeTH มี 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังถูกเอาเปรียบในที่ทำงาน
1. ปฏิเสธใครไม่เป็น
สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นคนหัวอ่อน คือการที่คุณไม่รู้จักปฏิเสธใครนี่แหละ การที่คุณไม่กล้าบอกปัดหรือปฏิเสธคำขอของผู้อื่น ทำให้คุณกลายเป็นเป้าหมายของการถูกเอาเปรียบได้ง่าย ๆ
เข้าใจได้ว่าการบอกปัดใครสักคนอาจเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เราอาจกลัวว่าเพื่อนร่วมทีมจะมองว่าเราไม่ให้ความร่วมมือ แต่ถ้าคุณมีงานที่มากอยู่แล้ว การปฏิเสธจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล คุณสามารถอธิบายกับทีมได้ว่าคุณต้องการให้ความสำคัญกับงานหลักของคุณอย่างเต็มที่มากกว่า เพราะนั่นคือสิ่งที่จะวัดผลงานได้ดีที่สุด
2. ไม่กล้าตั้งคำถาม
การตั้งคำถามเป็นรากฐานของการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตทางปัญญา หากคุณดำเนินชีวิตหรือทำงานโดยไม่เคยตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย คงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ การตั้งคำถามช่วยให้เราเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าคุณไม่รู้ เพราะนั่นคือขั้นตอนแรกของการเติบโตทางความคิด
หลายคนกลัวที่จะถามคำถามเพราะไม่อยากถูกมองว่าไม่รู้ แต่ความจริงแล้ว ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องบนโลกนี้ การตั้งคำถามไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่รู้และอยากเรียนรู้ สิ่งที่ต้องทำคือ อย่ากลัวที่จะตั้งคำถามเมื่อคุณสงสัย เพราะนั่นจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและอาจทำให้การทำงานของคุณราบรื่นขึ้นด้วยซ้ำ
3. มีความเห็นต่างแต่พูดไม่ได้
เช่นเดียวกับการตั้งคำถาม ไม่มีใครมีมุมมองเดียวกันเสมอไป เพราะเราทุกคนมีพื้นเพและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่คุณมีความคิดเห็นที่ต่างจากผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ผิด
ทุกครั้งที่มีการประชุมหรือการขอความคิดเห็นจากทีม หากคุณมีความเห็นที่ต่างจากคนอื่น คุณมีสิทธิ์ที่จะเสนอความคิดเห็นของคุณ อย่ากลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นการก้าวร้าวหรือไม่สุภาพ หากคุณมีเหตุผลและสามารถอธิบายมุมมองของคุณได้อย่างสมเหตุสมผล เพราะเป้าหมายของการประชุมก็คือการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายและหาข้อสรุปที่ดีที่สุดร่วมกัน
4. ใช้คำว่าขอโทษบ่อยเกินไป
หลายครั้งที่คนหัวอ่อนจะใช้คำว่า “ขอโทษ” มากเกินไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด การพูดคำขอโทษอยู่บ่อยครั้งเกิดจากความต้องการที่จะยุติปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่าใครเป็นฝ่ายผิดถูก นี่อาจเป็นเพราะไม่อยากให้ความตึงเครียดส่งผลกระทบต่อการทำงานของทีม
แม้ว่าการอ่อนข้อและใช้วิธีการสันติอาจช่วยให้ปัญหาสิ้นสุดลงได้ในบางกรณี แต่บ่อยครั้งที่มันเป็นเพียงการฝังกลบปัญหาไปในตัว เพราะปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง นั่นอาจทำให้เกิดการสะสมความไม่สบายใจที่อาจกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในภายหลัง เหมือนการฝังระเบิดเวลา
5. ไม่มั่นใจในความคิดเห็นตัวเอง
คนที่ถูกเอาเปรียบจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตนเอง พวกเขามักจะนั่งเงียบ ๆ ในการประชุม ไม่โต้แย้งใด ๆ ทำงานตามคำสั่งโดยไม่ตั้งคำถาม และพยักหน้ากับทุกสิ่งที่ได้รับบรีฟมาทั้งหมด ทั้งหมดนี้มักจะเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวว่าถ้าแสดงความเห็นออกไปอาจจะดูไม่ดี หรือกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าความคิดเห็นของพวกเขาไม่มีค่า
อย่ากลัวที่จะเห็นต่างจากคนอื่น เพราะความหลากหลายเป็นเรื่องปกติในโลกนี้ การมีมุมมองที่หลากหลายเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรและทีมงานมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เมื่อคุณกล้าแสดงความคิดเห็นและแสดงตัวตนของคุณออกมา นั่นแสดงว่าคุณมั่นใจในความสามารถของตัวเอง และกล้าที่จะเป็นตัวเอง
สรุปข้อคิดถ้าโดนเอาเปรียบ
ท้ายที่สุดนี้ อยากจะย้ำว่า ความใจดีก็เป็นสิ่งที่ดี และทำให้โลกเราน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น แต่คุณต้องไม่ปล่อยให้ความใจดีของคุณกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนอื่นเอาเปรียบได้ ปฏิเสธเมื่อจำเป็น และรักษาสมดุลให้ดี หากคุณทำเช่นนี้ คุณจะสามารถเป็นคนใจดีที่ทำงานได้อย่างมีความสุขและไม่ถูกเอาเปรียบ
ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์