ซูบารุ ประกาศปิดไลน์การผลิตสิ้นปีนี้แน่นอน
จากข้อมูลที่ผ่านมานี้ ชี้ให้เห็นถึงการลดลงของยอดขายรถยนต์ซูบารุในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ปี 2564: ยอดขาย 2,953 คัน
- ปี 2565: ยอดขาย 2,282 คัน
- ปี 2566: ยอดขาย 1,682 คัน
นอกจากนี้ ยอดขายในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนปี 2567 อยู่ที่ 344 คัน โดยในช่วงนี้บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง แต่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ โดยได้ปรับแผนธุรกิจเป็นการนำเข้ารถยนต์ 100% แทนการผลิตหรือประกอบรถยนต์ในประเทศ
การปรับแผนธุรกิจดังกล่าวอาจเป็นการตอบสนองต่อสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในการผลิตและการขายในประเทศ ทั้งนี้เพื่อคงการดำเนินธุรกิจและลดต้นทุนในระยะยาว
สถานการณ์ที่บริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด (TCSAT) กำลังเผชิญอยู่ในตลาดรถยนต์ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
- ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลง: บริษัทต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ต้องหาวิธีการประคองตัวและปรับกลยุทธ์ในการขาย
- การยกเลิกการจ้างงาน: ทางบริษัทได้ตัดสินใจแจ้งยกเลิกการจ้างพนักงานล่วงหน้า 7 เดือน และจ่ายเงินชดเชยตามความเหมาะสม การตัดสินใจนี้อาจเกิดจากความจำเป็นในการลดค่าใช้จ่ายเนื่องจากยอดขายที่ลดลง
- การเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาด: จากเดิมที่อาจจะมีการผลิตรถยนต์ในประเทศ บริษัทตัดสินใจจะเน้นการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป (CBU) 100% แทน โดยเฉพาะการนำเข้ารถไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ที่มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถแรง ๆ อย่างแบรนด์ ออดี้ และ เปอโยต์
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญในตลาดรถยนต์ และการปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดในธุรกิจ
การนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นมักจะมีต้นทุนภาษีที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการนำเข้ารถยนต์จากจีน เนื่องจากเงื่อนไขทางภาษีและค่าใช้จ่ายในการนำเข้าที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม รถยนต์จากญี่ปุ่นมักได้รับการยอมรับในเรื่องมาตรฐานการผลิตที่สูง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับสูงที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและสมรรถนะของรถ ตัวอย่างเช่น Subaru WRX ซึ่งเป็นรถนำเข้าแบบ CBU (Completely Built Up) ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาด
แม้ว่าจะมีต้นทุนสูงจากภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แต่ความต้องการของตลาดยังคงมีอยู่ โดยตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการจำนวน 27 แห่งทั่วประเทศยังคงให้บริการตามปกติ ทั้งนี้ยังมีการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายเพื่อเคลียร์สต๊อกรถที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน บริษัทยังวางแผนที่จะมุ่งเน้นทำตลาดรถยนต์ไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเร็วและสมรรถนะในการขับขี่สูง โดยการมุ่งเน้นตลาดนี้อาจเป็นทางเลือกในการเพิ่มยอดขายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด