สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลยืนยัน แอปทางรัฐ พร้อมใช้ไตรมาส 3 แน่นอน
แหล่งข่าวจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เปิดเผยว่าขณะนี้ DGA กำลังเร่งพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการลงทะเบียนเพื่อรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตจำนวน 10,000 บาท เพื่อให้ทันตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ โดยการลงทะเบียนจะเปิดให้ทั้งร้านค้าและประชาชนเข้าร่วมโครงการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
นอกจากนี้ DGA ยังเร่งหารือกับสถาบันการเงินเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platform) ที่จะทำหน้าที่เป็นระบบการชำระบัญชี (Clearing and Settlement) ระหว่างบัญชีของประชาชนและบัญชีของร้านค้าที่ธนาคารรับชำระเงิน (Open Loop) โดยแพลตฟอร์มนี้จะเป็นระบบการชำระเงินกลางของประเทศไทยที่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย คาดว่าจะสามารถเริ่มเติมเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาทให้กับประชาชนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) ยืนยันว่ามีความพร้อมในการพัฒนาระบบและแอปพลิเคชันทางรัฐให้สามารถรองรับปริมาณการทำธุรกรรมของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับแรก แอปพลิเคชันทางรัฐจะไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว
ขณะนี้ แอปพลิเคชันทางรัฐได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 20% และมียอดการดาวน์โหลดเกิน 1.2 ล้านครั้งแล้ว
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ได้มีมติเห็นชอบให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ดำเนินโครงการแพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platform) ภายใต้งบประมาณรวม 95 ล้านบาท โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เกษตรกร และผู้ประกอบธุรกิจด้านการเกษตร
โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินที่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทางการเงินหลากหลาย ทำหน้าที่เป็นระบบการชำระบัญชีระหว่างบัญชีของประชาชนและบัญชีของร้านค้าที่ธนาคารรับชำระเงิน (Open Loop) เพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การดำเนินการในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการให้ความช่วยเหลือ รวมถึงการจัดการข้อมูลและการชำระเงินให้เป็นไปอย่างเป็นระบบและโปร่งใส
โครงการที่กล่าวถึงเป็นระบบการชำระเงินที่มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีทางด้านการเงินและเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นแนวทางที่น่าสนใจในการปรับปรุงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้งาน เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยในการบันทึกและตรวจสอบธุรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัสและจัดเก็บอย่างปลอดภัยในบล็อกเชน
ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้แอปพลิเคชันของธนาคารหรือแอปพลิเคชันทางการเงินหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามความสะดวก เนื่องจากโครงการนี้มีการรวมระบบการชำระเงินที่สามารถตรวจสอบรายการได้ตามกฎหรือกติกาที่ภาครัฐกำหนด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการทำธุรกรรมการเงินของตนโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความถูกต้องและความปลอดภัยของการทำธุรกรรมนั้นๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานที่สามารถเลือกใช้แอปพลิเคชันตามความชอบและความเหมาะสมของตนเองได้
การเติมเงินดิจิทัลเพื่อสนับสนุนโครงการการค้าสตาร์ทอัพที่แนะนำโดย ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีศักยภาพที่จะช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยเติบโตและพัฒนาได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่เป็นช่วงที่มีความยุ่งเหยิงและความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก เงินที่เติมผ่านดิจิทัลเป็นการสนับสนุนที่สามารถเร่งการฟื้นตัวของธุรกิจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การช่วยเหลือธุรกิจสตาร์ทอัพในการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับโลกดิจิทัลก็เป็นอีกด้านที่น่าสนใจ เนื่องจากการที่ธุรกิจมีความพร้อมในด้านดิจิทัลจะช่วยให้สามารถเติบโตและเป็นอย่างมีประสิทธิภาพในโลกธุรกิจปัจจุบันได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเชิงการบริหารจัดการภายในธุรกิจ ซึ่งความพร้อมในด้านระบบหลังบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพได้
ดังนั้น การมีการสนับสนุนในด้านการทรานส์ฟอร์มและระบบหลังบ้านเพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีความพร้อมทางด้านดิจิทัลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและมีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจนี้ในระยะยาว