วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ตรงกับ “วันวาเลนไทน์” เป็นวันที่หลายคู่เลือกจดทะเบียนสมรส การวางแผนภาษี เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่รอบคอบ และเต็มไปด้วยความรักและความโรแมนติก หลายสถานที่ก็จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับวันวาเลนไทน์ เช่น การจัดงานจดทะเบียนสมรสหมู่ บริการถ่ายรูปคู่ฟรี หรือมอบของขวัญให้กับคู่รักที่จดทะเบียนในวันดังกล่าว ท่านใดกำลังวางแผนเกี่ยวกับภาษีอยู่นั้น PartTimeTH คัดเลือกข้อมูลที่น่าสนใจทั้งหมด มาไว้ให้แล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ของคู่รัก ที่กำลังวางแผนการเงิน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการวางแผนภาษี ก่อนจดทะเบียนสมรส มีอะไรบ้าง ?
การสมรสจดทะเบียนนั้นให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่คู่สมรส ซึ่งสิทธิที่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปก็คือ สิทธิประโยชน์เรื่องการหักลดหย่อนภาษี ดังนี้
กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้
- สามารถหักค่าลดหย่อนคู่สมรสได้ 60,000 บาท
- หักลดหย่อนบิดามารดาของคู่สมรสได้ 30,000 บาท (ต่อคน)
- นำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสมาหักลดหย่อนได้ (ไม่เกิน 10,000 บาท)
- นำเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของคู่สมรสมาหักลดหย่อนได้ (ไม่เกิน 15,000 บาท)
กรณีคู่สมรสมีเงินได้
- สามารถเลือกยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบรวม หรือแบบแยก
- กรณียื่นแบบรวม สามารถหักค่าลดหย่อนคู่สมรสได้ 60,000 บาท
- กรณีแยกยื่น แต่ละฝ่ายสามารถหักค่าลดหย่อนคู่สมรสได้ 30,000 บาท
ทะเบียนสมรส คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ?
ทะเบียนสมรส เป็นเอกสารทางกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างมาก เปรียบเสมือนใบเบิกทางสู่ความคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับคู่สมรสและครอบครัว ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
ประโยชน์หลักๆ ของการจดทะเบียนสมรส มีดังนี้
- ยืนยันสถานะทางกฎหมาย: เป็นหลักฐานที่แสดงถึงสถานะความเป็นสามี-ภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- คุ้มครองสิทธิของบุตร: บุตรที่เกิดจากคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรส จะได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เช่น สิทธิในมรดก สิทธิในการรับเลี้ยงดู
- คุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน: คู่สมรสมีสิทธิในทรัพย์สินร่วมกัน สามารถจัดการและแบ่งปันทรัพย์สินได้ตามกฎหมาย
- สิทธิประโยชน์ทางกฎหมาย: คู่สมรสมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากทางราชการหรือนายจ้างตามกฎหมายแรงงาน เช่น สิทธิลาคลอด สิทธิลาป่วย
- การฟ้องร้อง: คู่สมรสมีสิทธิฟ้องร้องแทนกันและกัน กรณีถูกละเมิดสิทธิ
- การเรียกร้องค่าเสียหาย: คู่สมรสมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายกรณีพบว่าคู่สมรสมีชู้
- สร้างความมั่นคงในชีวิตคู่: เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างจริงจัง
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม
- อำนวยความสะดวกในธุรกรรมต่างๆ: การใช้ชีวิตคู่จะสะดวกขึ้น เช่น การติดต่อธุรกรรมกับธนาคาร การซื้ออสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนสมรส ไม่ได้เป็นเพียงการรับสิทธิ แต่ยัง มาพร้อมกับ หน้าที่และความรับผิดชอบ ที่คู่สมรสต้องร่วมกันแบกรับ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนสมรส ควรศึกษาข้อมูลและเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้พร้อมสำหรับชีวิตคู่
สำหรับ ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส นั้น ไม่ยุ่งยาก สามารถดำเนินการได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือเขตที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนา โดยเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และทำตามขั้นตอนตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ
การวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคู่สมรส มีกี่ประเด็น ?
1. ประเภทรายได้
หลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้สำหรับคู่สมรสมีการกำหนดไว้ตามมาตรา 57 แห่งประมวลรัษฎากร สรุปได้เลยว่าเรามีสิทธิยื่นรายได้ทั้งหมดร่วมกัน แยกเอกสารทั้งหมดออกจากกันหรือจะประกาศรายได้แยกได้เฉพาะตามมาตรา 40 (1) รายได้ประเภทอื่นสามารถรายงานรวมกันได้ในชื่อบุคคลเดียว คุณสามารถแบ่งรายได้ที่ไม่ได้แบ่งออกได้ครึ่งหนึ่ง หรือจะกำหนดสัดส่วนรายได้ประเภท 40(8) เองก็ได้
ซึ่งมีประโยชน์มากในการวางแผนภาษี โดยเฉพาะหากรายได้ของคู่สมรสไม่ใช่ 40(1) เนื่องจากเราสามารถจัดสรรรายได้ให้คู่สมรสเพื่อกระจายฐานภาษีได้
2. จำนวนเงินที่ได้รับหลังจากหักค่าธรรมเนียมแล้ว
เนื่องจากอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีความก้าวหน้า โดยทั่วไปหากทั้งสองฝ่ายมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วหรือมีรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาท การยื่นร่วมกันจะส่งผลให้ภาษีเพิ่มขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงประเภทของรายได้ด้วย ค่าลดหย่อนประกอบด้วย
3. หักลดหย่อนทั้งสองฝ่าย
จะต้องพิจารณาทั้งสามประเด็นร่วมกัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือลองคำนวณจำนวนภาษีเงินได้ที่ต้องชำระ การยื่นแบบใดประหยัดภาษีได้มากที่สุด ?
การสมรสจดทะเบียนนั้นให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่คู่สมรส สามารถหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด กรณีคู่สมรสมีเงินได้ ควรพิจารณาเลือกยื่นแบบแสดงรายการภาษีแบบรวมหรือแบบแยก โดยเปรียบเทียบผลลัพธ์ภาษีทั้งสองแบบก่อนตัดสินใจ