เว็บไซต์หางาน Part Time และประกาศรับสมัครงานทุกประเภท

เทคนิคกู้เงินสินเชื่อ ไม่ใช้สเตทเม้นท์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

เทคนิคกู้เงินสินเชื่อ ไม่ใช้สเตทเม้นท์ ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
การขอกู้เงินสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ไม่มีสเตทเม้นท์นั้น ย่อมมีอุปสรรคมากกว่าพนักงานประจำ เนื่องจากไม่มีหลักฐานการเดินบัญชีเงินเดือนที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ยังมีสินเชื่อถูกกฎหมายหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มคนเหล่านี้โดยเฉพาะ เพียงแต่ต้องวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งจะมีวิธีการขอกู้เงินโดยที่ไม่ใช้สเตทเม้นท์อย่างไรบ้าง ติดตามพร้อมกันกับ PartTimeTH ได้เลย

ต้องการกู้เงินสินเชื่อ แต่ไม่มีสเตทเม้นท์ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

1. เอกสารหรือสัญญาต่าง ๆ ที่ควรเก็บไว้เพื่อประกอบการขอสินเชื่อ

เอกสารเหล่านี้จะช่วยยืนยันที่มาของรายได้ และสร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้ให้กู้เงินสินเชื่อ

สำหรับพนักงานประจำ

  • หนังสือรับรองเงินเดือน
  • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50)
  • สลิปเงินเดือน
  • ใบแจ้งยอดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน – 1 ปี

สำหรับอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์

  • สัญญาจ้างงาน
  • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50)
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • ใบแจ้งยอดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน – 1 ปี

สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร หรือขนส่งรถบรรทุก

  • ใบทะเบียนการค้า
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • ใบเสร็จซื้อของ
  • ใบสั่งซื้อสินค้า
  • บัญชีรายรับรายจ่าย
  • ใบแจ้งยอดบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน – 1 ปี

เอกสารเพิ่มเติม

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
  • เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (ถ้ามี)

ข้อแนะนำ

  • เก็บเอกสารให้ครบถ้วนและเรียบร้อย
  • แยกประเภทเอกสารให้ชัดเจน
  • เก็บเอกสารไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี

การเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้ จะช่วยให้การขอสินเชื่อของคุณราบรื่น และเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

2. ยื่นภาษีรายได้ผู้ประกอบอาชีพ

การยื่นภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีรายได้ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ พ่อค้าแม่ค้า ฟรีแลนซ์ และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ได้จดทะเบียนบริษัท สามารถยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) ได้ฟรี

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
  • หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50)
  • เอกสารแสดงการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
  • สำเนาบัตรประชาชน

ช่องทางการยื่นภาษี

  • ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร https://efiling.rd.go.th/rd-cms/
  • ยื่นผ่านแอป RD Smart Tax
  • ยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่

3. ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสู่ความมั่นคงทางการเงิน ช่วยให้คุณเข้าใจที่มาที่ไปของเงินอย่างถ่องแท้ วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วยิ่งขึ้น

ทำไมต้องทำบัญชีรายรับ รายจ่าย ?

  • เข้าใจสถานะการเงินของคุณ: มองเห็นภาพรวมของเงินที่เข้า-ออก วิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งทางการเงินของคุณ
  • ควบคุมการใช้จ่าย: ระบุจุดที่ใช้จ่ายเกินตัว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ช่วยให้เก็บออมได้มากขึ้น
  • วางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ: ตั้งเป้าหมายทางการเงินระยะสั้นและระยะยาว วางแผนเก็บออม ลงทุน หรือชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อ: เพิ่มความน่าเชื่อถือต่อธนาคาร แสดงหลักฐานการมีรายได้และความสามารถในการผ่อนชำระ

เริ่มต้นทำบัญชีรายรับ รายจ่ายได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย: เลือกวิธีที่สะดวกสำหรับคุณ เช่น สมุดบันทึก โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือแอปพลิเคชั่นบนมือถือ
  • แยกประเภทรายรับ-รายจ่าย: แบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น เงินเดือน เงินจากธุรกิจ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภค
  • บันทึกอย่างสม่ำเสมอ: จดบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวัน ไม่ควรปล่อยให้ขาดช่วง
  • ตรวจสอบความถูกต้อง: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

เครื่องมือที่ช่วยคุณทำบัญชีรายรับ รายจ่าย

  • สมุดบันทึกรายรับ รายจ่าย: หาซื้อง่าย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • โปรแกรมคอมพิวเตอร์: มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เหมาะสำหรับธุรกิจหรือการจัดการการเงินที่ซับซ้อน
  • แอปพลิเคชั่นบนมือถือ: สะดวก รวดเร็ว ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายระหว่างวัน

เคล็ดลับการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายให้ประสบความสำเร็จ

  • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: ตั้งเป้าหมายว่าต้องการอะไรจากการทำบัญชี เช่น เก็บออมเงิน ซื้อบ้าน หรือชำระหนี้
  • เลือกวิธีที่เหมาะกับคุณ: เลือกวิธีการทำบัญชีที่สะดวกและใช้งานง่าย
  • บันทึกอย่างสม่ำเสมอ: วินัยเป็นสิ่งสำคัญ จดบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกวัน
  • ตรวจสอบและวิเคราะห์: วิเคราะห์ข้อมูลการเงิน หาจุดอ่อนและจุดแข็ง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย

4. วางแผนเดินบัญชีธนาคาร

สเตทเม้นท์ หรือ รายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร เปรียบเสมือนใบเสร็จที่แสดงภาพรวมของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการฝาก ถอน โอนเงิน ข้อมูลเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการขอสินเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า และธุรกิจขนาดเล็ก

การวางแผนเดินบัญชีธนาคาร จึงเป็นสิ่งที่ควรเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า โดยมีหลักการสำคัญดังนี้

1. ฝากเงินอย่างสม่ำเสมอ

  • พยายามฝากเงินเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน แม้จะจำนวนไม่มากก็ตาม แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงิน
  • วางแผนเงินออม แบ่งเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์

2. รับรายได้ผ่านบัญชีธนาคาร

  • กระตุ้นให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร แทนการจ่ายเงินสด
  • แยกบัญชีสำหรับธุรกิจออกจากบัญชีส่วนตัว ช่วยให้ตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายได้ชัดเจน

3. แสดงการหมุนเวียนของเงิน

  • ใช้บัญชีธนาคารเพื่อจ่ายค่าสินค้า ค่าบริการต่างๆ
  • โอนเงินเพื่อลงทุน ซื้อประกัน หรือทำธุรกรรมอื่นๆ

4. เตรียมเอกสารประกอบ

  • เก็บสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จรับเงิน เอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
  • จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย แสดงที่มาที่ไปของเงิน

ระยะเวลาในการเดินบัญชี

  • โดยทั่วไป ผู้ให้กู้มักใช้รายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี
  • บางกรณีอาจต้องใช้ย้อนหลังนานกว่า 1 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อและเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรฝากเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีในช่วงใกล้ขอสินเชื่อ
  • หลีกเลี่ยงการถอนเงินก้อนใหญ่หลังจากได้รับอนุมัติสินเชื่อ

การวางแผนเดินบัญชีธนาคารที่ดี แสดงถึงวินัยทางการเงิน และสร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้ให้กู้ ช่วยให้โอกาสในการขอสินเชื่อผ่านมากขึ้น

สินเชื่อที่มีให้บริการในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง ?

  • สินเชื่อส่วนบุคคล: เหมาะสำหรับการใช้จ่ายส่วนตัว วงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน
  • สินเชื่อธุรกิจ: เหมาะสำหรับการนำไปต่อยอดธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท
  • สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์: วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท อนุมัติไว เหมาะสำหรับเงินฉุกเฉิน
  • สินเชื่อซ่อมแซมบ้าน: วงเงินกู้สูงสุด 500,000 บาท เหมาะสำหรับการซ่อมแซมหรือต่อเติมบ้าน
  • สินเชื่อทะเบียนรถ: วงเงินกู้สูงสุด 70% ของราคาประเมินรถ เหมาะสำหรับผู้มีรถยนต์

สินเชื่อไม่ต้องใช้สเตทเม้นท์ที่สมัครได้ มีกลุ่มอาชีพอะไรบ้าง ?

กลุ่มอาชีพ ที่สามารถเข้าถึงการกู้เงินสินเชื่อประเภทนี้ได้ ได้แก่

  • ฟรีแลนซ์
  • ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
  • พ่อค้าแม่ค้า
  • เกษตรกร
  • ขนส่งรถบรรทุก
  • ขนส่งสินค้า

ก่อนสมัครสินเชื่อ มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

  • ศึกษาข้อมูลสินเชื่ออย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
  • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากหลายๆ แหล่ง
  • เลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการ
  • ระวังมิจฉาชีพหลอกลวง
การวางแผนและเตรียมตัวที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมาย ช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงิน และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรหลงเชื่อสมัครกู้เงินสินเชื่อผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะโดนหลอกเอาข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่ดีแน่นอน หมั่นศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขให้ครบถ้วนและเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการผ่อนชำระ จะได้ไม่เดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน

ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์

Share:

ความคิดเห็น

ประกาศที่เกี่ยวข้อง

ม.33-39-40 เช็กด่วน เงินประกันสังคม กรกฎาคม จ่ายเท่าไร ?

ม.33-39-40 เช็กด่วน เงินประกันสังคม กรกฎาคม จ่ายเท่าไร ?

ไขข้อสงสัย เงินประกันสังคม เดือนกรกฎาคม ประจำปี 2567 แต่ละมาตรา…
บริษัท มอนเด นิสซิน รับสมัครพนักงานรายเดือน สวัสดิการเยี่ยม

บริษัท มอนเด นิสซิน รับสมัครพนักงานรายเดือน สวัสดิการเยี่ยม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครในจังหวัดชลบุรี เมื่อเพจ Facebook ชื่อ “อมตะนครชลบุรี” เผยแพร่ภาพหนุ่มสาวมากกว่า…
เผยรายได้ ซูซูกิ มอเตอร์ แต่ละปีได้รายได้-กำไรต่อปีเท่าไร ?

เผยรายได้ ซูซูกิ มอเตอร์ แต่ละปีได้รายได้-กำไรต่อปีเท่าไร ?

การประกาศยุติการผลิตของ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด…

หัวข้อ

ประกาศล่าสุด

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…
[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…

บทความล่าสุด

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน การที่พนักงานหมดไฟจากการทำงาน เป็นได้หลายสาเหตุด้วยกัน โดยทาง…
บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพที่ดีมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเข้าทำงานจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว การมีทักษะที่เหมาะสมและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นควรพัฒนาบุคลิกภาพให้เหมาะสมพร้อมกับทักษะในสายงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในองค์กร โดยในวันนี้ PartTimeTH…