5 วิธีช่วยปรับสภาพจิตใจด้วยตนเอง ทำง่าย ได้ผลจริง
1.หายใจเข้าลึกๆ
เมื่อคุณพบเจอกับปัญหา สิ่งแรกที่ควรทำคือการทำใจให้ผ่อนคลาย หายใจเข้าลึกๆ ในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา หากเกิดความตื่นตระหนก ผิดหวัง เสียใจ หรือโกรธ การแสดงอารมณ์เหล่านี้ในที่ทำงานอาจไม่เหมาะสม จึงควรหายใจเข้า หายใจออกช้าๆ เพื่อให้ความกดดันและความเครียดค่อยๆ บรรเทาลง เมื่อความเครียดลดลง สมองของเราจะมีประสิทธิภาพมากพอในการหาหนทางแก้ไขปัญหา หรือรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าการแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
2.ให้เวลากับตัวเองซักหน่อย
หลังจากพบเจอกับปัญหา การเข้าไปในปัญหาทันทีอาจไม่ใช่ความคิดที่ดี เนื่องจากการตัดสินใจอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ ควรหามุมที่สงบและเงียบเพื่อใช้ความคิดและให้เวลากับตัวเองซักพัก การให้เวลาตัวเองจะช่วยให้มีความคิดหรือไอเดียที่สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า เช่น หากคุณมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานที่เอาเปรียบ การเดินเข้าไปต่อว่าหรือแสดงความคิดเห็นทันทีอาจทำให้เรื่องราวแย่ลง ควรให้เวลากับตัวเองเพื่อคิดและหาทางรับมือกับเหตุการณ์นี้ เช่น ปรึกษากับหัวหน้าทีมหรือขอคำแนะนำจากฝ่ายบุคคล ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า
3.หาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังจากที่ได้ออกไปพักและให้เวลากับตัวเองจนความเครียดลดลงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหาสาเหตุของปัญหาในการทำงาน ว่าปัญหาเหล่านี้คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร และใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานในส่วนนี้บ้าง เมื่อเริ่มเข้าใจในปัญหาแล้ว คุณก็จะสามารถหาวิธีแก้ไขและปรับปรุงวิธีการทำงานหรือวิธีการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานให้ดียิ่งขึ้น
4.จัดระเบียบความคิด
การจัดระเบียบความคิดเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการทำงาน ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนหางานในกรุงเทพฯ คนหางานเชียงใหม่ หรือคนหางานนนทบุรี ก็จำเป็นต้องรู้ไว้ เพื่อใช้ในการรับมือกับปัญหาในการทำงานที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการรับมือและปรับสภาพจิตใจไปพร้อมกัน
5.วางแผนการทำงานใหม่
เมื่อรู้ถึงต้นเหตุของปัญหา วิธีแก้ปัญหา และได้แก้ปัญหาเหล่านั้นจนสำเร็จลุล่วงแล้ว การที่จะทำให้คุณไม่ต้องพบเจอกับปัญหาเดิมในการทำงาน ที่จะส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณอีก คือการวางแผนการทำงานใหม่