โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายของ พรรคเพื่อไทย ที่เสนอโดยนายเศรษฐา ทวีสิน หัวหน้าพรรค นโยบายนี้มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่โดยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่คนไทยประมาณ 50 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มแจกเงินในไตรมาสแรกของปี 2567 ผ่านแอปเป๋าตัง หรือ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” (Digital Wallet)
ผู้มีสิทธิ์รับเงิน
- คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน
- คนที่มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาท และมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท (ต้องเข้าเงื่อนไขทั้งสองอย่าง)
- คนที่ได้รับสวัสดิการ เช่น ผู้พิการ คนชรา ได้รับเต็มจำนวน ไม่หักลด
รายละเอียดเพิ่มเติม
- เงิน 10,000 บาท จะถูกโอนเข้าแอปเป๋าตัง
- เงินสามารถใช้จ่ายได้เฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
- เงินสามารถใช้จ่ายได้ภายใน 3 เดือน
- เงินไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
- เงินไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้
เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ใช้จ่ายอะไรได้บ้าง ?
เงินดิจิทัล 10,000 บาท สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ดังนี้
สิ่งของที่ซื้อได้
- อาหาร
- เครื่องดื่ม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
- ยารักษาโรค
- เครื่องมือทำกิน
สถานที่ซื้อ
- ร้านค้าที่อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศ)
ข้อจำกัด
- ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์
- ไม่สามารถใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ
- ไม่สามารถใช้ซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
- ไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสด
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เริ่มใช้จ่ายได้ช่วงไหน ?
เงินดิจิทัล 10,000 บาท คาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายได้ ช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม 2567 นี้ ประชาชนสามารถใช้เงิน 10,000 บาท ได้ทั้งแบบ รวดเดียว หรือ ทยอยใช้ ก็ได้
เงื่อนไขการใช้จ่าย
- ใช้ได้กับร้านค้าที่มีการลงทะเบียนรับสิทธิ
- ร้านค้าต้องอยู่ในอำเภอหรือเขตเดียวกันกับบัตรประชาชนของผู้ใช้
- ร้านค้าต้องอยู่ในระบบภาษี
ระยะเวลาการใช้จ่าย
- ประชาชนมีเวลา 6 เดือน ในการใช้เงิน 10,000 บาท
- ร้านค้ามีเวลา 2 ปี ในการนำเงินไปขึ้นเงินกับธนาคาร
ลงทะเบียนรับสิทธิเงินดิจิตอล 10,000 บาท มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
ตามข้อมูลล่าสุด รัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อยืนยันสิทธิรับเงินดิจิตอล 10,000 บาท ในช่วงเดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยโครงการนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) เท่านั้น ไม่ได้แจกเงินให้ทุกคนโดยอัตโนมัติ
วัตถุประสงค์ของการยืนยันตัวตน (KYC)
- เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์
- ยืนยันว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลตามเลขบัตรประชาชนจริง ๆ
- เป็นการยืนยันสิทธิของแต่ละคน
วิธีการลงทะเบียน
- รอประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล คาดว่าจะประกาศผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการคลังและช่องทางสื่อสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
- ลงทะเบียนผ่านช่องทางที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งอาจเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางออฟไลน์
- กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตนตามขั้นตอน
- รอตรวจสอบสิทธิ์และรับเงินดิจิตอล 10,000 บาท
หมายเหตุ
- ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น รายละเอียดและวิธีการลงทะเบียนจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล
- ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่พลาดข้อมูลสำคัญ
กรณีเคยเข้าร่วมโครงการของรัฐมาก่อน
- รัฐบาลสามารถดึงฐานข้อมูลเก่ามาใช้เพื่อตรวจสอบสิทธิ์
- ประชาชนอาจไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
- รอประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล
กรณีไม่เคยเข้าร่วมโครงการของรัฐมาก่อน
- เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม
- ติดตามข่าวสารและวิธีการลงทะเบียน
- ลงทะเบียนตามขั้นตอน
โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต มีไว้เพื่ออะไร ?
โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตมีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนและเศรษฐกิจไทยได้หลายด้าน ดังนี้
ด้านประชาชน
- แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย: เงิน 10,000 บาท ช่วยให้ประชาชนมีเงินทุนสำรองสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
- กระตุ้นการใช้จ่าย: เงินที่ประชาชนได้รับ จะถูกนำไปใช้จ่ายในร้านค้า ร้านอาหาร ส่งผลดีต่อธุรกิจขนาดเล็กและเศรษฐกิจฐานราก
- ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน: กระตุ้นให้ผู้คนคุ้นเคยกับการใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้บริการทางการเงินอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
ด้านเศรษฐกิจ
- กระตุ้นเศรษฐกิจ: เงิน 10,000 บาท ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียน กระตุ้นการผลิต การจ้างงาน และ GDP ของประเทศ
- สร้างงาน: การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ กระตุ้นให้เกิดการจ้างงานใหม่
- ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล: โครงการนี้ ช่วยให้ผู้คนคุ้นเคยกับการใช้เงินดิจิทัล สนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0