เว็บไซต์หางาน Part Time และประกาศรับสมัครงานทุกประเภท

10 วิธีเก็บเงิน สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือน มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ

10 วิธีเก็บเงิน สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือน มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ
การมีวิธีเก็บเงิน เปรียบเสมือนรากฐานสู่ความมั่นคงทางการเงิน และกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินในชีวิต แต่การออมเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนมักประสบปัญหาใช้จ่ายเกินตัว เก็บเงินไม่อยู่ PartTimeTH จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการออมเงินทั้งหมดมาไว้แล้ว สามารถไปศึกษาความรู้ทางการเงินเพิ่มเติมได้เลย

10 วิธีเก็บเงินออมทรัพย์ สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือน

1. การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ก้าวแรกสู่การวางแผนการเงินที่มั่นคง

ทำไมการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจึงสำคัญ?

  • มองเห็นภาพรวมทางการเงิน: รู้ที่มาที่ไปของเงิน รู้ว่าเงินของคุณไหลไปไหนบ้าง
  • วางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ตั้งเป้าหมายทางการเงิน เก็บออม และวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ควบคุมค่าใช้จ่าย: ระบุจุดอ่อนในการใช้จ่าย ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
  • สร้างวินัยทางการเงิน: ฝึกนิสัยการจดบันทึก รู้จักเก็บออม
  • เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต: วางแผนเกษียณอายุ เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายในยุคดิจิทัล

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยให้การทำบัญชีรายรับรายจ่ายง่ายขึ้น สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องพกสมุดบันทึกให้ยุ่งยาก ตัวอย่างแอปพลิเคชั่นยอดนิยม เช่น

  • Money Lover: ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบถ้วน รองรับหลายแพลตฟอร์ม
  • Spendee: ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับการติดตามค่าใช้จ่าย
  • Piggipo: เน้นการออมเงิน ตั้งเป้าหมายเก็บเงิน
  • Finito: เหมาะสำหรับการทำบัญชีธุรกิจ

เริ่มต้นทำบัญชีรายรับรายจ่ายง่ายๆ ด้วยตัวเอง

  • เลือกแอปพลิเคชั่น: เลือกแอปที่เหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณ
  • บันทึกรายรับ: จดบันทึกรายรับทั้งหมดของคุณ แหล่งที่มา ประเภท
  • บันทึกรายจ่าย: จดบันทึกรายจ่ายทั้งหมด แยกประเภท ย่อย
  • ติดตามผล: ตรวจสอบรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ วิเคราะห์ พัฒนา
  • ปรับพฤติกรรม: ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย เก็บออม

การทำบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผน วิธีเก็บเงินที่ดี ช่วยให้คุณควบคุมการใช้จ่าย เก็บออม และบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้สำเร็จ

ลองเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่ายตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคงของคุณ

2. ทบทวนความจำเป็นก่อนใช้จ่าย กุญแจสู่อนาคตที่มั่นคง

การทบทวนความจำเป็นก่อนใช้จ่าย จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณควบคุมการใช้จ่าย เก็บออมเงิน และบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้

เทคนิคทบทวนความจำเป็นก่อนใช้จ่าย

1. แยกแยะความจำเป็นและความต้องการ

  • ความจำเป็น หมายถึง สิ่งของหรือบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค
  • ความต้องการ หมายถึง สิ่งของหรือบริการที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เป็นเพียงสิ่งที่เราอยากได้ เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

2. ตั้งคำถามก่อนซื้อ

  • สิ่งนี้จำเป็นสำหรับฉันจริง ๆ หรือไม่?
  • ฉันมีสิ่งของที่คล้ายกันอยู่แล้วหรือไม่?
  • ฉันสามารถหาสิ่งนี้ได้ในราคาที่ถูกกว่านี้หรือไม่?
  • ฉันสามารถรอซื้อสิ่งนี้ในภายหลังได้หรือไม่?

3. วางแผนการใช้จ่าย

  • จดบันทึกรายรับรายจ่าย
  • กำหนดงบประมาณสำหรับแต่ละหมวดหมู่
  • ติดตามการใช้จ่ายของตัวเอง

4. หากิจกรรมอื่นทำแทนการช้อปปิ้ง

  • ออกกำลังกาย
  • อ่านหนังสือ
  • พบปะเพื่อนฝูง

5. ตั้งเป้าหมายทางการเงิน

  • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ ท้าทาย และมีความหมายต่อคุณ
  • แบ่งเป้าหมายใหญ่ ๆ ออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ
  • ติดตามความคืบหน้า

การทบทวนความจำเป็นก่อนใช้จ่าย อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในตอนแรก แต่หากคุณฝึกฝนเป็นประจำ คุณจะสามารถควบคุมการใช้จ่าย เก็บออมเงิน และบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้

3. งดไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้า

เข้าใจว่าในเวลาว่าง หลายคนชอบไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้า ‍แต่รู้หรือไม่ว่า การไปเดินห้างบ่อยๆ โดยไม่ได้ตั้งใจซื้ออะไร สุดท้ายก็อาจเผลอเสียเงินไปกับสิ่งของล่อตาล่อใจ เสื้อผ้า หรืออาหาร โดยไม่จำเป็น

ถ้าอยากเก็บเงิน การงดไปเดินห้างสรรพสินค้า เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อย่างน่าทึ่ง

ลองหาอะไรทำอย่างอื่นแทนการไปห้าง เช่น

  • อยู่บ้าน: อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก หรือทำอาหาร
  • ไปที่อื่น: สวนสาธารณะ ️พิพิธภัณฑ์ ️ตลาด หรือวัดวาอาราม
  • ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน: ‍‍‍พูดคุย เล่นเกม ทานอาหาร หรือทำกิจกรรมอื่นๆ

4. เคลียร์หนี้สินให้หมด

หนี้สินเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการวางแผนการเงินที่ดี เงินที่ควรนำไปออมหรือลงทุนเพื่ออนาคต กลับต้องถูกนำไปจ่ายหนี้ก่อน โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่มักเป็นปัญหาใหญ่สำหรับมนุษย์เงินเดือน

กลยุทธ์เคลียร์หนี้

1.สำรวจสถานะหนี้สิน

  • จดบันทึกยอดหนี้ทั้งหมด แยกประเภท แหล่งที่มา อัตราดอกเบี้ย และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายขั้นต่ำ
  • วิเคราะห์ว่าหนี้ก้อนไหนเป็นภาระมากที่สุด ดอกเบี้ยสูง และเร่งด่วนที่สุด

2.วางแผนจัดการหนี้

  • ตั้งเป้าหมายปลดหนี้ที่ชัดเจน realistic และ achievable
  • เลือกวิธีจัดการหนี้ที่เหมาะสม เช่น snowball method, avalanche method, debt consolidation loan
  • วางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม จดบันทึกรายรับรายจ่าย ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

3.หารายได้เพิ่ม

  • หางานเสริม freelance หรือ part-time
  • ขายของออนไลน์ หรือ ขายของที่ไม่ใช้แล้ว
  • หาทุนการศึกษา หรือ ทุนสนับสนุน

4.ปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย

  • ใช้จ่ายอย่างมีสติ คิดก่อนซื้อ
  • เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ
  • วางแผนการใช้เงินล่วงหน้า
  • เก็บออมเงิน เผื่อกรณีฉุกเฉิน

5.หาตัวช่วย

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือ สถาบันการเงิน
  • เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนการปลดหนี้
  • ศึกษาข้อมูล ความรู้ และ เทคนิคการจัดการหนี้

5. กำหนดเงินใช้เป็นรายวัน วิธีง่ายๆ สู่การมีเงินเก็บ

การกำหนดเงินใช้เป็นรายวัน เป็นเทคนิคการวางแผนการเงินที่ช่วยให้ควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาการใช้เงินเกินตัว และช่วยให้มีเงินเก็บออมอย่างสม่ำเสมอ

วิธีเก็บเงินมีดังนี้

  • คำนวณรายรับและรายจ่าย: เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกรายรับและรายจ่ายทั้งหมดของคุณ แยกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (ค่าเช่า, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง) และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น (เสื้อผ้า, เกมส์, ของกินเล่น)
  • หักค่าใช้จ่ายที่จำเป็น: นำรายรับทั้งหมด หักด้วยค่าใช้จ่ายที่จำเป็น จะได้จำนวนเงินที่เหลือสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  • กำหนดเงินใช้เป็นรายวัน: แบ่งจำนวนเงินที่เหลือจากข้อ 2 ด้วยจำนวนวันในเดือน จะได้จำนวนเงินที่ควรใช้จ่ายต่อวัน
  • พกเงินไปใช้แค่จำนวนที่กำหนด: ฝึกวินัยในการใช้จ่าย พกเงินไปใช้แค่จำนวนที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
  • จดบันทึกรายจ่าย: จดบันทึกรายจ่ายทั้งหมดของคุณอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ติดตามการใช้จ่าย วิเคราะห์พฤติกรรม และปรับแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสม

6. ลดการใช้บัตรเครดิต คู่มือสำหรับมนุษย์เงินเดือน

บัตรเครดิต เปรียบเสมือนดาบสองคมที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนต้องเผชิญ แม้จะสะดวกสบาย เต็มไปด้วยโปรโมชัน และคะแนนสะสม แต่หากใช้ไม่ระวัง อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินก้อนโตที่ยากจะแก้ไข

แนวทางลดการใช้บัตรเครดิต ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนบริหารการเงินได้อย่างชาญฉลาด ดังนี้

1. ตั้งสติก่อนใช้

  • ถามตัวเองทุกครั้งก่อนรูดบัตรว่า จำเป็นต้องซื้อสินค้าหรือบริการนั้นจริงหรือไม่
  • เปรียบเทียบราคาสินค้าจากแหล่งอื่น เผื่อมีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
  • พิจารณากำลังจ่ายของตัวเองว่าสามารถจ่ายเต็มจำนวนได้หรือไม่

2. วางแผนการใช้จ่าย

  • จดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจน
  • กำหนดวงเงินสำหรับใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่อเดือน
  • เลือกบัตรที่มีโปรโมชันตรงกับไลฟ์สไตล์

3. ฝึกวินัยการใช้จ่าย

  • พกเงินสดติดตัวไว้สำหรับใช้จ่ายทั่วไป
  • ปิดการแจ้งเตือนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
  • หลีกเลี่ยงการรูดบัตรตอนหิวหรืออารมณ์ไม่ดี

4. หาวิธีอื่นแทนการใช้บัตรเครดิต

  • สมัครสมาชิกคลับสะสมแต้มของร้านค้าแทนการใช้บัตรเครดิต
  • มองหาโปรโมชันส่วนลดเงินสด
  • ใช้บริการแอปพลิเคชันจ่ายเงินที่ช่วยควบคุมการใช้จ่าย

5. จัดการหนี้บัตรเครดิต

  • จ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อเลี่ยงดอกเบี้ย
  • รีบโปะหนี้บัตรที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน
  • ปรึกษาธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้

6. ปิดบัตรที่ไม่จำเป็น

  • ยกเลิกบัตรที่ไม่ได้ใช้งาน
  • เก็บไว้เฉพาะบัตรที่มีประโยชน์ต่อการใช้จ่าย

7. ศึกษาความรู้ด้านการเงิน

  • หาความรู้เกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
  • เรียนรู้วิธีบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การลดการใช้บัตรเครดิต จำเป็นต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจจริง เมื่อฝึกฝนจนเกิดเป็นนิสัย จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนหลุดพ้นจากวังวนหนี้สิน บริหารการเงินได้อย่างมั่นคง และนำไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้

จำไว้ว่า บัตรเครดิตเป็นเพียงเครื่องมือ อยู่ที่เราจะใช้มันอย่างชาญฉลาดหรือไม่ อนาคตทางการเงินที่ดี อยู่ในมือของคุณ

7. วางแผนเก็บเงินก่อนจะใช้

การวางแผนวิธธีเก็บเงินนั้นทำได้ยาก บางครั้งตั้งใจจะเก็บ แต่ก็เผลอใช้จ่ายจนเงินหมด วิธี “เก็บก่อนใช้” นั้นเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีจริง ๆ

วิธีทำ

  • คำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็น: จดบันทึกรายจ่ายทั้งหมดของคุณ แยกเป็นหมวดหมู่ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ เพื่อดูว่าเงินของคุณไปไหนบ้าง และสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้
  • กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการเก็บ: ตั้งเป้าหมายว่าอยากเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ แนะนำให้เริ่มจากจำนวนเงินที่ไม่สูงมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้รู้สึกท้อแท้
  • เก็บเงินทันที: เมื่อรับเงินเดือนมาแล้ว ให้รีบแยกเงินส่วนที่ต้องการเก็บออกทันที อาจจะถอนเงินออกมาหยอดกระปุก หรือนำไปฝากไว้ในบัญชีเงินฝากประจำ เพื่อป้องกันการเผลอนำเงินไปใช้

ตัวอย่าง

  • เงินเดือนของคุณ 15,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น 10,000 บาท
  • เงินที่ต้องการเก็บ 5,000 บาท

เมื่อรับเงินเดือนมาแล้ว ให้รีบแยกเงิน 5,000 บาท ออกมาเก็บทันที อาจจะ

  • ถอนเงินออกมาหยอดกระปุก
  • ฝากไว้ในบัญชีเงินฝากประจำ
  • ลงทุนในกองทุนรวม

ข้อดีของการเก็บก่อนใช้

  • ช่วยให้มีวินัยในการออมเงิน
  • ควบคุมการใช้จ่ายได้ดีขึ้น
  • มีเงินเก็บออมไว้ใช้ในยามจำเป็น
  • บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น

ลองทำดู รับรองว่าวิธี “เก็บก่อนใช้” นี้ จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บออมมากขึ้นอย่างแน่นอน

8. เปิดบัญชีเงินฝากประจำ ออมเงินอย่างชาญฉลาด ผลตอบแทนคุ้มค่า

บัญชีเงินฝากประจำ เหมาะสำหรับนักออมที่ต้องการมุ่งมั่นเก็บเงินเพื่อเป้าหมายระยะยาว แลกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป แต่เงินฝากประจำมีข้อจำกัดในการถอนเงิน เหมาะกับเงินที่ไม่ต้องใช้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด

จุดเด่นของบัญชีเงินฝากประจำ

  • ดอกเบี้ยสูงกว่า: บัญชีเงินฝากประจำให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ช่วยให้เงินของคุณงอกเงยได้เร็วขึ้น
  • ปลอดภัย: เงินฝากประจำได้รับประกันเงินฝากจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคส.) เงินของคุณจึงปลอดภัย
  • สร้างวินัยการออม: การฝากเงินประจำช่วยให้คุณมีวินัยในการออมเงิน เหมาะสำหรับการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายระยะยาว

ข้อควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีเงินฝากประจำ

  • ระยะเวลาฝาก: บัญชีเงินฝากประจำมีระยะเวลาฝากที่หลากหลาย เช่น 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน เลือกให้เหมาะกับเป้าหมายการออมของคุณ
  • อัตราดอกเบี้ย: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่างๆ เลือกบัญชีที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
  • การถอนเงิน: บัญชีเงินฝากประจำมีข้อจำกัดในการถอนเงิน ศึกษาเงื่อนไขการถอนเงินก่อนเปิดบัญชี
  • ภาษี: ดอกเบี้ยเงินฝากประจำต้องเสียภาษี 15%

9. ห้ามใช้แบงก์ 50 วิธีเก็บเงินง่ายๆ ที่ได้ผลจริง

ห้ามใช้แบงก์ 50 เป็นหนึ่งในวิธีเก็บเงินยอดนิยมที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ วิธีนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยไม่ต้องวางแผนซับซ้อน เพียงแค่ตั้งกฎกับตัวเองว่า ห้ามนำแบงก์ 50 บาท ไปใช้จ่าย ทุกครั้งที่ได้รับแบงก์ 50 ให้เก็บแยกไว้ต่างหาก

ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล?

  • แบงก์ 50 หายาก: ปกติแล้วเราไม่ค่อยได้เจอแบงก์ 50 บ่อยนัก เมื่อได้มาแล้วจึงมีแนวโน้มที่จะเก็บไว้มากกว่าใช้
  • ไม่กระทบค่าใช้จ่าย: การเก็บแบงก์ 50 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากนัก เพราะเราสามารถใช้แบงก์อื่นแทนได้
  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน: แม้จะเก็บทีละ 50 บาท แต่เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ โดยไม่ต้องรู้สึกกดดัน

ตัวอย่าง

  • สมมติว่าคุณได้รับแบงก์ 50 บาท 4 ใบต่อสัปดาห์
  • ใน 1 ปี (52 สัปดาห์) คุณจะมีเงินเก็บ 10,400 บาท
  • เพียงแค่ไม่ใช้แบงก์ 50 บาท คุณก็จะมีเงินเก็บเพิ่มโดยไม่ต้องพยายามอะไรมาก

วิธีเก็บแบงก์ 50

  • เตรียมกระปุกออมสินสำหรับเก็บแบงก์ 50 โดยเฉพาะ
  • เขียนป้ายติดกระปุกว่า “ห้ามใช้แบงก์ 50”
  • ทุกครั้งที่ได้รับแบงก์ 50 ให้หยอดใส่กระปุกทันที
  • ตั้งเป้าหมายว่าอยากเก็บเงินได้เท่าไหร่
  • เมื่อเก็บครบตามเป้าหมาย นำเงินไปฝากธนาคารหรือใช้ตามความต้องการ

10. งดใช้เงินโบนัส เก็บไว้เพื่ออนาคตที่มั่นคง

โบนัสปลายปี เปรียบเสมือนรางวัลตอบแทนความทุ่มเทของเหล่ามนุษย์เงินเดือน หลายคนคงตั้งตารอที่จะใช้เงินก้อนนี้เพื่อที่ตัวเอง จะได้ซื้อของที่อยากได้ หรือเติมเต็มความสุขในชีวิต แต่ อย่าเพิ่งรีบร้อนใช้เงินโบนัสจนหมด! เพราะนี่คือโอกาสทองที่คุณจะได้เก็บเงินออมไว้สร้างความมั่นคงในอนาคต

ทำไมถึงควร “งดใช้เงินโบนัส”?

  • สร้างความมั่นคงทางการเงิน: เงินโบนัสเป็นเงินก้อนโตที่ช่วยเสริมสร้างฐานะการเงินของคุณ เก็บไว้เผื่ออนาคต เผื่อกรณีฉุกเฉิน หรือต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่งงาน
  • บรรลุเป้าหมายทางการเงิน: เงินโบนัสช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินเร็วขึ้น เช่น เก็บเงินดาวน์บ้าน เก็บเงินเรียนต่อต่างประเทศ เก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ
  • อิสระทางการเงิน: การเก็บออมช่วยให้คุณมีอิสระทางการเงินมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ไม่ต้องพึ่งพาใคร
  • วางแผนเกษียณอายุ: เงินโบนัสช่วยให้คุณวางแผนเกษียณอายุได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินหลังเกษียณ

กลยุทธ์ “งดใช้เงินโบนัส”

  • ตั้งเป้าหมายการออม: ตั้งเป้าหมายว่าอยากเก็บเงินโบนัสไว้ทำอะไร เช่น เก็บไว้ซื้อบ้าน เก็บไว้เรียนต่อ เก็บไว้แต่งงาน
  • แบ่งเงินโบนัส: แบ่งเงินโบนัสเป็นสัดส่วนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น เก็บ 50% ลงทุน 30% ใช้จ่ายส่วนตัว 20%
  • ฝากเงินออม: ฝากเงินโบนัสในบัญชีออมทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยดี หรือลงทุนในกองทุนรวมเพื่อเพิ่มผลตอบแทน
  • หาแรงบันดาลใจ: หาแรงบันดาลใจในการเก็บออมจากบทความ หนังสือ หรือบุคคลตัวอย่าง
  • ติดตามผล: จดบันทึกรายรับรายจ่าย ติดตามผลการออมอย่างสม่ำเสมอ

จำไว้ว่า “เงินโบนัส” เป็นโอกาสทองในการสร้างอนาคตที่มั่นคง อย่าใช้จ่ายเงินโบนัสจนหมดเกลี้ยง ควรเก็บออมไว้เพื่ออนาคต เผื่อกรณีฉุกเฉิน หรือใช้สำหรับเป้าหมายทางการเงินของคุณ

การมีวิธีเก็บเงิน ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนการเงินในอนาคต ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินต่างๆ เช่น การซื้อบ้าน ซื้อรถ การศึกษา หรือ เกษียณอายุอย่างสบาย อย่าเก็บเงินมากเกินไป ควรเก็บเงินในสัดส่วนที่เหมาะสมกับรายได้ อย่าลงทุนในสิ่งที่ไม่เข้าใจ ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าใช้เงินออมโดยไม่จำเป็น เก็บเงินไว้สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ การเก็บเงินเป็นวินัยที่ต้องฝึกฝน เริ่มต้นเก็บเงินตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคง
ติดตามประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook “หางาน Part Time งานพิเศษ ทำที่บ้าน เสาร์ อาทิตย์

Share:

ความคิดเห็น

ประกาศที่เกี่ยวข้อง

ม.33-39-40 เช็กด่วน เงินประกันสังคม กรกฎาคม จ่ายเท่าไร ?

ม.33-39-40 เช็กด่วน เงินประกันสังคม กรกฎาคม จ่ายเท่าไร ?

ไขข้อสงสัย เงินประกันสังคม เดือนกรกฎาคม ประจำปี 2567 แต่ละมาตรา…
บริษัท มอนเด นิสซิน รับสมัครพนักงานรายเดือน สวัสดิการเยี่ยม

บริษัท มอนเด นิสซิน รับสมัครพนักงานรายเดือน สวัสดิการเยี่ยม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครในจังหวัดชลบุรี เมื่อเพจ Facebook ชื่อ “อมตะนครชลบุรี” เผยแพร่ภาพหนุ่มสาวมากกว่า…
เผยรายได้ ซูซูกิ มอเตอร์ แต่ละปีได้รายได้-กำไรต่อปีเท่าไร ?

เผยรายได้ ซูซูกิ มอเตอร์ แต่ละปีได้รายได้-กำไรต่อปีเท่าไร ?

การประกาศยุติการผลิตของ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด…

หัวข้อ

ประกาศล่าสุด

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครพนักงานราชการทั่วไป สํานักงานขนส่งจังหวัดแพร่ 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…
[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

[งานราชการ] รับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา

ประกาศรับสมัครบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โรงพยาบาลอ่างทอง 1 อัตรา โดยรับสมัครด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่…

บทความล่าสุด

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

สาเหตุที่ทำให้พนักงานหมดไฟ จากการทำงานเกิดจากงานแบบไหน ?

ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน การที่พนักงานหมดไฟจากการทำงาน เป็นได้หลายสาเหตุด้วยกัน โดยทาง…
บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพดี มีส่วนต่อการตัดสินใจเข้าทำงานจริงหรือ ?

บุคลิกภาพที่ดีมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเข้าทำงานจริงๆ แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียว การมีทักษะที่เหมาะสมและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นควรพัฒนาบุคลิกภาพให้เหมาะสมพร้อมกับทักษะในสายงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในองค์กร โดยในวันนี้ PartTimeTH…