เงินผู้สูงอายุเดือนมีนาคมเข้าแล้ว มีวันไหนบ้าง ?
ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมรับเงินพิเศษเพิ่ม 100 บาทต่อเดือน หรือ 100-300 บาท (ตามวันเดือนปีเกิด) ในเดือนมีนาคม 2567 นี้ เป็นการจ่ายเงินงวดแรกจากทั้งหมด 3 งวด
เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย นี้ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารที่มีการผูกพร้อมเพย์เลขประชาชน 13 หลัก ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2567
วันและเวลาการโอนเงิน
- 11 มีนาคม 2567: ผู้มีสิทธิเกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495 ได้รับเงิน 300 บาท
- 12 มีนาคม 2567: ผู้มีสิทธิเกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495 – 31 ธันวาคม 2501 ได้รับเงิน 200 บาท
- 13 มีนาคม 2567: ผู้มีสิทธิเกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2501 – 29 กุมภาพันธ์ 2507 ได้รับเงิน 100 บาท
เงินพิเศษผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอน 3 งวด มีงวดไหนบ้าง ?
รายละเอียดการโอนเงิน
- งวดที่ 1: 11 – 13 มีนาคม 2567
- งวดที่ 2: 11 – 13 มิถุนายน 2567
- งวดที่ 3: 11 – 13 กันยายน 2567
จำนวนเงิน
- ผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี ได้รับเงิน 100 บาทต่อเดือน
- ผู้สูงอายุ 70 – 79 ปี ได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน
- ผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป ได้รับเงิน 300 บาทต่อเดือน
ช่องทางการรับเงิน
- โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน
- ผู้สูงอายุที่ไม่มีบัญชีธนาคาร สามารถไปรับเงินสดได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา
ผู้ที่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้สิทธิวงเงินอะไรได้บ้าง ?
1. วงเงินสำหรับซื้อสินค้า: 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- สามารถใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน
- ใช้ได้กับร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ และรับชำระเงินผ่านเครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชันถุงเงิน
- วงเงินไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
- วงเงินไม่สะสมไปใช้ในเดือนถัดไป
2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม: 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
- ใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม LPG ได้ 80 บาท ทุกๆ 3 เดือน (เฉลี่ย 26.67 บาทต่อเดือน)
- ใช้สิทธิ์ได้ที่ร้านค้าจำหน่ายก๊าซหุงต้มที่เข้าร่วมโครงการ
3. วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ: 750 บาทต่อเดือน
- ใช้ชำระค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะที่ร่วมโครงการ เช่น รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT BTS ARL และรถโดยสารเอกชน
- วงเงินไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
- วงเงินไม่สะสมไปใช้ในเดือนถัดไป
เงินคนแก่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โอนผ่านช่องทางใด ?
สำหรับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคนแก่ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) เรียบร้อยแล้ว ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
1. บัญชีเงินฝากธนาคาร
- ที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือให้ความยินยอม
- โอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น
- หรือบัญชีบุคคลอื่น
2. บัญชีพร้อมเพย์
- ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ
วิธีตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตรวจสอบได้อย่างไรบ้าง ?
1. ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน
- แอปเป๋าตัง
- ถุงเงิน
2. ตรวจสอบผ่านธนาคารกรุงไทย
- นำบัตรประชาชนไปที่ธนาคารกรุงไทยสาขาใดก็ได้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสถานะการรับสิทธิให้
ผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) แก้ไขอย่างไร ?
วิธีการยืนยันตัวตน
- ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา: ผู้มีสิทธิสามารถไปยืนยันตัวตนด้วยตนเองได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
- กรณีไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์: ผู้มีสิทธิที่ไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนได้ สามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดร่วมกับบุคคลอื่น หรือ เข้าบัญชีบุคคลอื่นได้
วิธีการแจ้งความประสงค์
- ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม: ดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมได้ที่เว็บไซต์ welfare.mof.go.th
- รับแบบฟอร์ม: ขอรับแบบฟอร์มได้ที่ กรมบัญชีกลาง หรือ สำนักงานคลังจังหวัด
- กรอกข้อมูล: กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
- แนบเอกสาร: แนบสำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
- ยื่นแบบฟอร์ม: ยื่นแบบฟอร์มที่ กรมบัญชีกลาง หรือ สำนักงานคลังจังหวัด
หมายเหตุ
- ผู้มีสิทธิควรตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินผ่านเว็บไซต์ www.welfare.mof.go.th หรือ สอบถามได้ที่ กรมบัญชีกลาง โทร. 02-270-6400
- กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนบัญชีธนาคาร ผู้มีสิทธิต้องแจ้งให้กรมบัญชีกลางทราบภายใน 15 วัน