7 ข้อควรรู้ บริษัทที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด
1. มีอัตราการลาออกบ่อย
สิ่งที่คุณสังเกตเป็นสัญญาณที่บริษัทมีปัญหาในการรักษาพนักงานและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของพนักงานในองค์กรนั้น การมีการลาออกบ่อยๆ อาจส่งผลต่อสภาพจิตและความผิดหวังของพนักงานที่ยังอยู่ในบริษัทด้วย การที่บริษัทมีการเปิดรับสมัครตำแหน่งสำคัญๆ อย่างต่อเนื่องก็อาจแสดงให้เห็นถึงปัญหาในการรักษาพนักงานและการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของบริษัทอย่างเข้มงวด
สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถดำเนินการตามข้อเสนอข้างล่างได้
- วิเคราะห์สาเหตุ: ทำการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร ว่าสาเหตุมาจากที่ใด เช่น ปัญหาในการบริหารจัดการ, วัฒนธรรมองค์กร, หรือเป้าหมายทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจน
- ปรับปรุงกระบวนการบริหาร: พิจารณาทบทวนกระบวนการที่มีอยู่ในองค์กร เพื่อให้มีการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดีขึ้น เช่น การสร้างแผนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ, การพัฒนาทักษะและความสามารถของผู้บริหาร
- สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี: การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการสร้างความร่วมมือ ความโปร่งใส และการเคารพต่อพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานมีความสุขและพัฒนาได้
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน: ทำการสื่อสารและเข้าพูดคุยกับพนักงานเพื่อเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของพนักงาน และพยายามทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการใส่ใจจากบริษัท
- รักษาความน่าเชื่อถือ: ควรรักษาคำสัญญาและคำตัดสินใจที่เคยมีกับพนักงาน เพื่อให้พนักงานรู้สึกมั่นใจในองค์กรและเชื่อมั่นว่าบริษัทจะปฏิบัติตามคำสัญญาที่เคยทำไว้
2. การสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ขัดแย้งกัน
การมีวัฒนธรรมองค์กรขัดแย้งสามารถสังเกตได้จากความไม่สมดุลในการตัดสินใจ การสื่อสารที่ไม่เป็นระเบียบ และความขัดแย้งระหว่างค่านิยมและค่านิยมองค์กรที่ถูกกำหนดไว้ การมีพนักงานที่บ่นหรือรีวิวเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีปัญหาภายในองค์กรที่ควรถูกแก้ไข
การมีวัฒนธรรมองค์กรขัดแย้งมีผลกระทบที่สำคัญต่อชีวิตการทำงานของพนักงานในระยะยาว เช่น สามารถทำให้พนักงานรู้สึกไม่พึงพอใจในการทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และมีความเสี่ยงในเรื่องของความไม่มั่นคงของตำแหน่งงาน
สำหรับวิธีการจัดการคือ
- การสำรวจการสื่อสารและวัฒนธรรม: ทำการสำรวจว่าปัญหามาจากที่ไหน และควรปรับปรุงอย่างไร เพื่อให้มีการสื่อสารและวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และค่านิยมขององค์กร
- การสนับสนุนและสร้างบรรยากาศที่ดี: สนับสนุนการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง และสร้างความเข้าใจระหว่างพนักงานและผู้บริหาร
- การแก้ไขปัญหาและการปรับปรุงกระบวนการ: ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในองค์กรและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างบรรยากาศทำงานที่ดีขึ้น
- การส่งเสริมความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม: ส่งเสริมความร่วมมือและการทำงานเป็นทีมภายในองค์กร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและลดความขัดแย้งในการทำงาน
3. สภาพแวดล้อมที่ไม่น่าทำงาน
การสังเกตและการวิเคราะห์ความเป็นจริงของบริษัทก่อนการเข้าทำงานเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อป้องกันตัวเองจากสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น ผมขอเสนอเทคนิคเพื่อช่วยคุณเลือกสำรวจบริษัทให้ดีและความรู้สึกที่น่าเชื่อถือก่อนการตัดสินใจ
- อ่านรีวิว: ค้นหารีวิวของบริษัทที่คุณสนใจบนเว็บไซต์เช่น Glassdoor หรือ Indeed เพื่อเข้าใจประสบการณ์ของคนในองค์กร ความคิดเห็นเชิงลบที่ต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณชั่วร้ายที่ควรระมัดระวัง
- สำรวจโปรไฟล์บริษัท: ทำการค้นคว้าโปรไฟล์ของบริษัทในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น LinkedIn, Facebook, หรือ Twitter เพื่อดูกิจกรรมและข่าวสารล่าสุดของบริษัท
- ติดต่อบุคคลภายใน: หาบุคคลภายในบริษัทที่คุณรู้จักหรือมีความรู้เกี่ยวกับบริษัทนั้นๆ เพื่อขอคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทำงาน
- สังเกตการณ์สถานที่: หากมีโอกาสเยี่ยมชมสถานที่ทำงานก่อนการยอมรับเสนองาน การเข้าชมสถานที่จะช่วยให้คุณสามารถสังเกตและประเมินสภาพแวดล้อมการทำงานได้อย่างถูกต้อง
- ถามคำถามที่เป็นกลาง: ในการสัมภาษณ์ อย่าลืมถามคำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทำงาน แบบมีการจัดประชุมเช้า ๆ หรือมีมุมพักเบรคสำหรับพนักงานหรือไม่
การทำความเข้าใจถึงบริษัทและสภาพแวดล้อมการทำงานก่อนการยอมรับเสนองานจะช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของภาพลวงตาของบริษัทที่อาจมีสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับคุณในระยะยาว
4. งานไม่ทำ เน้นแต่คุย
การทำงานในบริษัทที่เน้นคุยงานมากกว่าการทำงานสามารถทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจและไม่มั่นใจในการดำเนินงาน เนื่องจากขาดความชัดเจนในการตัดสินใจและการกระจายงาน การที่ผู้บริหารเน้นการประชุมมากเกินไปอาจทำให้การดำเนินธุรกิจชะลอลงและมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของบริษัทในระยะยาว
หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ คุณอาจต้องคิดใหม่เกี่ยวกับการทำงานในบริษัทนั้น การถามคำถามเกี่ยวกับโอกาสในการโปรโมท หรือการเปลี่ยนแปลงระบบบริหารจัดการอาจช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าวัฒนธรรมของบริษัทนั้นเป็นอย่างไร และว่าคุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างไรในการค้นหางานใหม่หากต้องการออกจากบริษัทนั้นๆ การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท รวมถึงการสอบถามเพื่อนร่วมงานหรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในบริษัทนั้นก็อาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรอยู่หรือออกจากบริษัทนั้น
5. บริษัทที่ไม่โปร่งใสและไม่ซื่อสัตย์
การรับมือกับบริษัทที่ไม่โปร่งใสและไม่ซื่อสัตย์นั้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถเติบโตในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัวได้ดีขึ้น การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและความซื่อสัตย์จากองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นคงและมีแรงบันดาลใจในการทำงาน
สัญญาณที่แสดงว่าคุณอยู่ในบริษัทที่เล่นไม่ซื่อ
- ไม่มีเป้าหมายชัดเจน: บริษัทไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทำให้คุณไม่รู้ว่าต้องทำงานอย่างไรให้ตรงกับเป้าหมายของบริษัท
- ไม่มีเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร: ข้อตกลงหรือสัญญาต่างๆ ถูกทำเป็นปากเปล่า ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานที่ยืนยันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบหรือสัญญาเลื่อนตำแหน่ง
- สัญญาเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือนไม่เคยเป็นจริง: นายหรือ HR มักสัญญาว่าจะโปรโมทหรือขึ้นเงินเดือนให้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ
ผลกระทบของการทำงานในบริษัทที่เล่นไม่ซื่อ
- สูญเสียความเชื่อมั่น: การที่บริษัทไม่ซื่อสัตย์ทำให้คุณรู้สึกเสียความเชื่อมั่นในองค์กร รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเคารพหรือให้คุณค่า
- เสียโอกาสในการเติบโต: เมื่อไม่มีการเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือนตามที่สัญญา คุณอาจเสียโอกาสในการเติบโตทั้งทางอาชีพและการเงิน
- ความกังวลและความเครียด: การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนและไม่มีความโปร่งใส ทำให้คุณรู้สึกเครียดและกังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง
วิธีการรับมือ
- เก็บหลักฐาน: เก็บหลักฐานเกี่ยวกับสัญญาและคำพูดของนายหรือ HR ที่บอกคุณเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือน
- สอบถามอย่างชัดเจน: ถามนายหรือ HR อย่างชัดเจนเกี่ยวกับแผนการเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือน และขอให้มีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร
- ประเมินสถานการณ์: ถ้าบริษัทไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนและมีความน่าเชื่อถือ คุณควรเริ่มประเมินสถานการณ์และมองหาทางเลือกอื่น
- เริ่มหางานใหม่: วางแผนหางานใหม่ที่มีความโปร่งใสและสามารถให้โอกาสในการเติบโตได้ดีกว่า
- สร้างเครือข่าย: เข้าร่วมกิจกรรมในวงการของคุณเพื่อสร้างเครือข่ายและเปิดโอกาสในการหางานใหม่
การทำงานในบริษัทที่เล่นไม่ซื่อเป็นสิ่งที่ไม่ควรทนต่อไป เพราะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตนเอง การพัฒนาทักษะ และอนาคตทางอาชีพ ควรเริ่มต้นด้วยการเก็บหลักฐาน สอบถามอย่างชัดเจน และหาทางเลือกใหม่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าและมีความโปร่งใสมากขึ้น
6. บริษัทบอนไซ
บริษัทบอนไซ คือคำเปรียบเปรยที่ใช้กับองค์กรที่ทำให้พนักงานรู้สึกไม่เติบโต ไม่มีการพัฒนา ทั้งด้านทักษะและความรู้ ด้วยลักษณะของบริษัทเช่นนี้ ทำให้พนักงานมักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการพัฒนา หรือแม้กระทั่งความรู้และทักษะที่มีอยู่ก็ลดลงตามเวลา
สัญญาณที่แสดงว่าคุณอยู่ในบริษัทบอนไซ
- ไม่มีการเรียนรู้ใหม่ๆ: คุณรู้สึกว่าทำงานไปวันๆ โดยไม่ได้เรียนรู้หรือได้รับความรู้ใหม่ๆ ไม่มีโอกาสในการพัฒนาทักษะที่สำคัญในการทำงาน
- ไม่มีการประเมินผลการทำงาน: ไม่มีการติดตามหรือประเมินผลการทำงานอย่างจริงจัง ทำให้คุณไม่รู้ว่าตัวเองพัฒนาไปถึงไหนหรือมีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง
- ถูกมอบหมายงานนอกเหนือจากความรับผิดชอบ: คุณมักจะถูกสั่งให้ทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่หลักของตัวเอง ทำให้เสียเวลาจากการทำงานที่มีคุณค่าและสามารถพัฒนาทักษะได้
ผลกระทบของการทำงานในบริษัทบอนไซ
- ความรู้และทักษะไม่พัฒนา: การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการส่งเสริมการเรียนรู้ใหม่ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังถดถอย ไม่สามารถก้าวหน้าได้ตามที่ควร
- ไม่มีเป้าหมายในอนาคต: เมื่อไม่มีการพัฒนาทักษะหรือความรู้เพิ่มเติม คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่มีเป้าหมายในการทำงาน ทำให้เกิดความรู้สึกหมดกำลังใจ
- ยากในการหางานใหม่: ขาดการพัฒนาทักษะอาจทำให้คุณไม่มีความสามารถที่พึงต้องการในตลาดงาน ทำให้ยากต่อการหางานใหม่ที่ดีขึ้น
วิธีการรับมือ
- ประเมินตัวเอง: ลองสำรวจว่าคุณได้รับการพัฒนาทักษะและความรู้ใหม่ๆ หรือไม่ในช่วงที่ผ่านมา
- หาความรู้เพิ่มเติมนอกเวลา: ถ้าบริษัทไม่สนับสนุนการพัฒนา ลองหาความรู้เพิ่มเติมเองผ่านการอ่านหนังสือ เข้าร่วมการสัมมนา หรือเรียนคอร์สออนไลน์
- สร้างเครือข่าย: สร้างเครือข่ายกับคนในวงการเดียวกันเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ และเปิดประตูสู่งานที่ดีขึ้น
- มองหางานใหม่: หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ควรเริ่มมองหางานใหม่ที่สามารถให้โอกาสในการพัฒนาและเติบโตได้
- การทำงานในบริษัทบอนไซไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องทน เพราะมีผลกระทบต่อการพัฒนาตัวเองและอนาคตทางอาชีพของคุณ ควรเริ่มต้นด้วยการประเมินสถานการณ์และหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
7. สัญญาณของบริษัทที่ไม่มีอนาคต
การทำงานในบริษัทที่ไม่มีแผนอนาคตและไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างแท้จริง เพราะมันสร้างความไม่มั่นคงและความไม่มั่นใจในอนาคตของงานและอาจส่งผลให้คุณรู้สึกไม่พอใจและไม่มีความสุขในการทำงานด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ ลองดำเนินการตามข้อเสนอนี้
- สื่อสารกับผู้บริหาร: พยายามให้ความเห็นของคุณถูกไว้วางใจกับผู้บริหาร แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีแผนกลยุทธ์และการทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน เสนอแนวทางหรือแบบแผนที่คิดว่าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้
- เสนอแนวทาง: หากคุณมีความสามารถในการวางแผนหรือมีความรู้ในสาขาที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถเสนอแนวทางหรือแผนงานที่มีประสิทธิภาพให้กับบริษัทได้ อาจจะทำให้คุณได้รับการเชื่อมั่นมากขึ้นจากผู้บริหาร
- เตรียมตัวเป็นอิสระ: หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือการยอมรับความเสี่ยงในการทำงาน คุณอาจต้องเตรียมพร้อมที่จะลาออกและหางานใหม่ที่มีบรรยากาศการทำงานที่ดีกว่า
การทำงานในบริษัทที่ไม่มีแผนอนาคตอาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจและไม่สบายใจ เพื่อประสบการณ์และอนาคตที่ดีกว่า ลองให้ความสำคัญกับความพร้อมที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับคุณและอนาคตของคุณได้บนพื้นฐานของความสุขและความเต็มใจในการทำงานด้วย