ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย งานสายนี้น่าสนใจ ไม่ตกงานแน่นอน
นายแพทย์นพดล นพคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอ็ม เนิร์สซิ่ง แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของเราเริ่มตั้งแต่การจัดตั้งโรงเรียนการบริบาล เดอะ พาเร้นท์ส โดยสอนผู้บริบาลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพออกไปดูแลผู้สูงอายุ ทั้งในสถานประกอบการและที่บ้าน
อีกส่วนคือดำเนินธุรกิจสถานส่งเสริมสุขภาพ และบริการดูแลผู้สูงอายุ The Parents Wellness and Rehabilitation ที่ดูแล ส่งเสริม ฟื้นฟู สุขภาพผู้สูงอายุ ทั้งกลุ่มภาวะพึ่งพิงบางส่วน และกลุ่มภาวะพึ่งพิงถาวร (ติดเตียง) แทนครอบครัว
“ประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านคนนับตั้งแต่ปี 2567 ในกลุ่มนี้ต้องการคนดูแล 35% แต่ปัญหาคือคนไทยอยากทำงานด้านนี้น้อยมาก ทั้ง ๆ ที่งานสายนี้น่าสนใจ ไม่ตกงานแน่นอน ทั้งยังมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุล่าสุดกำหนดให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องผ่านหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชั่วโมง จากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐหรือเอกชน โดยจะต้องได้วุฒิบัตร หรือประกาศนียบัตรรับรอง พร้อมขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
“โดยทางโรงเรียนการบริบาล เดอะ พาเร้นท์ส สอนหลักสูตรเหล่านี้ด้วย แต่มีผู้สนใจเรียนน้อยกว่าดีมานด์ในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ขณะคนที่ทำงานผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำมาอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมีข้อกำหนดเรื่องเรียนหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุไม่น้อยกว่า 420 ชั่วโมง ก็ไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับการมาเรียนเพื่อได้วุฒิบัตรรับรองมากนัก
เพราะเขามีอาชีพอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่กฎหมายเองก็เปิดกว้างกับงานสายนี้มาก โดยผู้เรียนจะเป็นเพศหญิง หรือชายก็ได้ ทั้งยังไม่จำกัดสัญชาติด้วย ขอให้สื่อสารภาษาไทยได้ เพราะหลักสูตรสอนเป็นภาษาไทย และลูกค้าเป็นคนไทย จึงอยากให้คนไทยมองอาชีพนี้เป็นทางเลือก เพราะเป็นอาชีพที่ทั่วโลกต้องการ จบแล้วมีงานทำ 100%”
ปัจจุบันธุรกิจดูแลผู้สูงวัย กำลังบูมมากในประเทศไทย
นางวิภาดา แก้วประเสริฐ เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด เชอรี่เนอสซิ่งโฮม เปิดเผยว่าธุรกิจของเธอเปิดมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งในช่วงเวลานี้ได้เห็นความต้องการผู้ดูแลผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ งานหลักของเชอรี่เนอสซิ่งโฮมคือการจัดส่งคนดูแลผู้สูงอายุทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล โดยเน้นพนักงานคนไทยเป็นหลักเนื่องจากการสื่อสารที่ง่ายกว่า
พนักงานของเชอรี่เนอสซิ่งโฮมทุกคนผ่านการอบรมและมีใบรับรองทักษะผู้ช่วยเหลือผู้ป่วย (NA) โดยปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงไทยวัยกลางคน เนื่องจากวัยนี้สนใจทำงานด้านนี้มากขึ้นเพราะอัตราค่าจ้างสูงกว่าแรงงานขั้นต่ำ โดยเริ่มต้นประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ พนักงานยังมีข้อดีที่มีค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันไม่มาก เพราะทำสัญญาเป็นรายปีและอยู่กินกับลูกค้า ทำให้มีที่พักและอาหารฟรี รวมถึงไม่ต้องเสียค่าเดินทาง
นางวิภาดายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันเทรนด์ที่เห็นคือคนสนใจทำธุรกิจจัดหาคนดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งเชอรี่เนอสซิ่งโฮมเป็นสมาชิกสมาคมการค้าธุรกิจพัฒนาการดูแลผู้สูงอายุและเด็ก ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวของคนที่เข้าออกธุรกิจนี้อยู่พอสมควร หลายคนอยากทำธุรกิจนี้แต่ไม่ง่าย เนื่องจากต้องรักษามาตรฐานการให้บริการ และพนักงานต้องผ่านเกณฑ์การอบรมและมีทักษะในการปฐมพยาบาล เนื่องจากผู้สูงอายุหลายคนมีปัญหาในการเดินและมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง
จากการสำรวจคนไทยส่วนมากจ้างต่างด้าวดูแลผู้สูงวัย
นายสุชิน พึ่งประเสริฐ นายกสมาคมการค้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการนำเข้าแรงงานต่างด้าว และประธานกรรมการบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ กรุ๊ปเซเว่นเซอร์วิส จำกัด ได้เปิดเผยว่าหลายอาชีพในประเทศไทยไม่สามารถเติมเต็มด้วยอุปทานของแรงงานไทยได้ทั้งหมด
ดังนั้น บทบาทของการย้ายถิ่นฐานแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม จึงมีความสำคัญในการช่วยแก้ปัญหานี้ โดยเฉพาะงานดูแลผู้สูงอายุ แม้ว่าแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยจะไม่ขาดแคลน แต่งานบางสาย เช่น งานแม่บ้านหรืองานดูแลผู้สูงอายุ ก็ยังคงหาคนทำยาก
เมื่อประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้มีคนติดต่อสอบถามหาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เนื่องจากครอบครัวไทยส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้าน ไม่สามารถพึ่งพาคนในครอบครัวดูแลผู้สูงอายุได้เหมือนในอดีต หลายครอบครัวจึงต้องการแรงงานต่างด้าวเพื่อดูแลผู้สูงอายุและทำงานบ้านไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม หลายครอบครัวที่ติดต่อเข้ามามักจะถอดใจเมื่อเห็นขั้นตอนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวและการต้องต่อเอกสารอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว ทำให้หันไปเลือกใช้บริการรูปแบบอื่นแทน