ต่อไปนี้คือ เคล็ดลับ 6 ประการ เติมพลังคนวัยทำงาน โดย กรมสุขภาพจิต
1. เติมพลังใจ
การฝึกมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อเรามีทัศนคติที่ดี ทุกอย่างในชีวิตก็จะดีตามไปด้วย การสร้างกำลังใจให้กับตัวเองและผู้อื่นเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้เรามีความสุขและสนุกกับการทำงานมากขึ้น
การมองโลกในแง่ดีสามารถช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังงานในการทำงาน และทำให้เราเห็นโอกาสในทุกๆ ปัญหาที่พบ การให้กำลังใจตัวเอง เช่น การพูดกับตัวเองในแง่บวก หรือการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่สามารถทำได้ จะช่วยให้เรามีความรู้สึกประสบความสำเร็จและมีกำลังใจในการทำงานต่อไป
นอกจากนี้ การให้กำลังใจผู้อื่น เช่น การชมเชยหรือการให้ความช่วยเหลือ จะสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกมีคุณค่าและมีกำลังใจในการทำงาน การมีทัศนคติที่ดีและการสร้างกำลังใจจะทำให้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของเรามีความสุขมากยิ่งขึ้น
2. เติมพลังกาย
โดยการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการที่เรามีสุขภาพกายดีจะส่งผลให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการเรียนรู้และมีความจำที่ดี
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดความเครียด และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนจากแหล่งที่ดี จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูและเสริมสร้างสุขภาพ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการรักษาสุขภาพที่ดี การนอนหลับไม่เพียงพออาจส่งผลให้สมองทำงานช้าลง มีปัญหาในการเรียนรู้และความจำ การดูแลสุขภาพกายให้ดีนั้นจะช่วยให้เรามีชีวิตที่มีคุณภาพและมีสมองที่แข็งแรงพร้อมที่จะเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
3. เติมพลังสติ
การมีสติต่อทุกเรื่องราวจะทำให้เรามีการตัดสินใจที่ดี รู้จักที่จะทำหรือพูดในเวลาที่เหมาะสม สามารถลงมือทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีสมาธิ ตลอดจนหาวิธีผ่อนคลายความเครียด และมีการจัดการกับความเครียดได้
การมีสติช่วยให้เรามองเห็นสถานการณ์ต่างๆ อย่างชัดเจน ไม่ตกอยู่ในความรีบร้อนหรืออารมณ์ที่ไม่ดี การตัดสินใจที่ดีเกิดจากการพิจารณาอย่างรอบคอบและการมีสติในทุกขณะ นอกจากนี้ การมีสติยังช่วยให้เราสามารถทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีสมาธิ มีความตั้งใจ และสามารถทำสิ่งนั้นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การผ่อนคลายความเครียดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฝึกสมาธิ การออกกำลังกาย การพักผ่อน หรือการทำกิจกรรมที่เราชอบ การมีสติจะช่วยให้เรารับรู้และจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น ไม่ให้ความเครียดนั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจของเรา
4. เติมพลังความคิด
มีหลักคิดในการดำเนินชีวิตและการทำงานโดยใช้แนวคิด “คิดเป็น คิดดี คิดให้” มีความคิดยืดหยุ่น สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ เรียนรู้และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่นตามความสามารถ รวมทั้งหาโอกาสทำประโยชน์ต่อสังคม
การคิดเป็น หมายถึง การมีวิจารณญาณในการพิจารณาและตัดสินใจในทุกๆ เรื่อง การคิดดี หมายถึง การมีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่นและสถานการณ์ต่างๆ การคิดให้ หมายถึง การมองหาวิธีที่เราสามารถช่วยเหลือและสนับสนุนผู้อื่นได้
การมีความคิดยืดหยุ่นช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การควบคุมอารมณ์ของตัวเองทำให้เราสามารถทำงานและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นช่วยให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น
การแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการให้คำปรึกษา การสนับสนุน หรือการทำงานร่วมกัน จะสร้างสังคมที่ดีและมีความสามัคคี การหาโอกาสทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น การทำกิจกรรมอาสา การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หรือการสนับสนุนโครงการสังคม จะทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าและมีความสุขในการดำเนินชีวิต
5. เติมพลังในการปรับตัว
รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ สามารถปรับตัวได้กับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี และสามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
การปรับตัวเป็นทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิตในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างดี หมายถึง การมีความสามารถในการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมีความร่วมมือที่ดีในทุกๆ ด้าน
การจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม เป็นการใช้สติและวิจารณญาณในการพิจารณาและตัดสินใจ รวมถึงการมีความคิดสร้างสรรค์ในการหาวิธีแก้ไขปัญหา การมีทักษะในการจัดการกับปัญหาจะช่วยให้เราสามารถผ่านพ้นอุปสรรคและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
6. เติมพลังชีวิต
สุดท้าย กรมสุขภาพจิต แนะนำเติมพลังชีวิตคือการที่เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ซึ่งความชอบของคนเรานั้นแตกต่างกัน การได้ทำในสิ่งที่ชอบหรือกิจกรรมที่ชอบจึงเปรียบเสมือนการเติมเต็มกำไรให้กับชีวิต เช่น การทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว การไปท่องเที่ยว อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ ฯลฯ จะทำให้เราสามารถกลับมาทำงานได้อย่างสดชื่น และเป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิตอีกด้วย
การทำสิ่งที่เราชอบไม่เพียงแค่ช่วยให้เรามีความสุข แต่ยังเป็นการเติมพลังให้กับตัวเอง การทำกิจกรรมที่ชอบทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีพลังที่จะทำงานหรือเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีชีวิตที่มีคุณภาพและมีสุขภาพจิตที่ดี
การใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนที่เรารักช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต การทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบ เช่น การท่องเที่ยว อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง หรือปลูกต้นไม้ เป็นวิธีที่ดีในการเติมพลังและทำให้เรารู้สึกสดชื่นพร้อมที่จะกลับมาทำงานหรือทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่