5 เทคนิคบริหารเงิน ใช้จ่ายอย่างไร ให้มีประโยชน์ ?
1. เริ่มจัดทำรายรับ-รายจ่าย
หลายคนรู้ว่าการทำรายรับรายจ่ายนั้นดี แต่ก็มักรู้สึกยุ่งยากและน่าเบื่อหน่าย จริงๆแล้ว เปรียบเสมือนการฝึกบริหารเงินของธุรกิจขนาดเล็ก นั่นคือตัวเราเอง
ลองมองการจัดการเงินแบบใหม่
- สนุกกับการติดตาม: ลองใช้แอปพลิเคชั่นบันทึกรายรับรายจ่าย มีหลายแอปที่ใช้งานง่าย ฟรี และสวยงาม เปลี่ยนการจดบันทึกแบบเดิมให้สนุกขึ้น
- ตั้งเป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายทางการเงิน เช่น เก็บเงินดาวน์บ้าน ซื้อรถ หรือเที่ยวต่างประเทศ การมีเป้าหมายช่วยให้มีแรงจูงใจในการจัดการเงินมากขึ้น
- มองภาพรวม: วิเคราะห์รายรับรายจ่าย หารายจ่ายที่ไม่จำเป็น รู้ที่มาที่ไปของเงิน เปรียบเสมือนการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท ช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง
- วางแผน: จัดสรรเงินออม ลงทุน และใช้จ่ายอย่างเหมาะสม
ลองเริ่มต้นง่ายๆ
- จดบันทึกรายรับรายจ่าย 1 อาทิตย์
- แยกประเภทของรายจ่าย
- หารายจ่ายที่ไม่จำเป็น
- ตั้งเป้าหมายเก็บเงิน
จำไว้ว่า
- สุขภาพทางการเงินที่ดี เริ่มต้นได้ที่ตัวเรา
- ฝึกบริหารเงินตั้งแต่วันนี้ อนาคตสดใสแน่นอน
2. Mindset ด้านการเงิน เข้าใจก่อนลงทุน ปลอดภัยทุกบาท
Mindset ด้านการเงิน หมายถึง มุมมอง ความคิด และทัศนคติที่เรามีต่อเงิน ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมทางการเงินของเรา
แชร์ลูกโซ่ เป็นรูปแบบการหลอกลวงที่ใช้ผลตอบแทนสูงๆ ล่อใจให้คนลงทุน โดยอ้างว่ามีวิธีพิเศษในการสร้างผลกำไร
ทำไมคนถึงหลงเชื่อแชร์ลูกโซ่ ?
- ความโลภ: คนส่วนใหญ่ต้องการรวยเร็วโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมาก
- ความรู้ทางการเงินที่ต่ำ: หลายคนไม่เข้าใจความเสี่ยงของการลงทุน
- ความกลัว: กลัวพลาดโอกาส กลัวเสียเปรียบคนอื่น
- การถูกโน้มน้าว: แชร์ลูกโซ่มักใช้กลยุทธ์การโน้มน้าวที่แนบเนียน
- การเห็นผลตอบแทนระยะสั้น: แชร์ลูกโซ่มักจ่ายผลตอบแทนในช่วงแรกเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ทำไมผู้มีความรู้ถึงถูกหลอก ?
- อคติ: เชื่อในคำพูดของคนรู้จักมากกว่าข้อมูล
- ความมั่นใจ: คิดว่าตัวเองฉลาดพอที่จะไม่ถูกหลอก
- ความโลภ: หวังผลตอบแทนสูง
ทำไมผู้เสียหายถึงบอกต่อ ?
- ถูกหลอกให้เชื่อ: คิดว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ดี
- กลัวถูกประณาม: ไม่อยากถูกมองว่าโง่
- หวังผลประโยชน์: ได้ค่าคอมมิชชั่นจากการชักชวนคนอื่น
Mindset ที่ดีต่อการลงทุน
- เข้าใจความเสี่ยง: ไม่มีการลงทุนใดที่ไร้ความเสี่ยง
- ศึกษาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล: ระวังผลตอบแทนที่สูงเกินจริง
- ลงทุนระยะยาว: หวังผลตอบแทนระยะยาว
- พัฒนาตัวเอง: เรียนรู้เรื่องการเงินอยู่เสมอ
การมี Mindset ด้านการเงินที่ดี จะช่วยให้เราตัดสินใจทางการเงินได้อย่างชาญฉลาด และหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงจากแชร์ลูกโซ่
3. การบริหารความเสี่ยง กุญแจสำคัญสู่ชีวิตที่มั่นคง
ไม่ว่าจะลงทุนประเภทไหนก็ตาม มีความเสี่ยงในด้านต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของราคาสินทรัพย์ลงทุน ความเป็นไปได้ที่จะขาดทุน หรือขาดทุนทั้งการลงทุน แม้แต่ชีวิตของเราเองก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการว่างงาน การเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีเงินไม่พอเกษียณ เราได้คิด วางแผน และดำเนินการเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้แล้วหรือยัง ? แม้ว่าจะไม่มีวิธีใดที่จะขจัดความเสี่ยงทั้งหมดได้ แต่เราก็สามารถลดผลกระทบที่มีต่อความเสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างมาก
หากเรารู้ว่าเกษียณแล้วต้องใช้เงินปีละ 1 ล้านบาท เราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เราเลยวางแผนเก็บออมลงทุนแต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเกษียณเรามีเงินใช้แค่ปีละ 600,000 บาท ถึงแม้เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่วางแผนไว้ก็ตาม แต่เรายังมีเงินอยู่ปีละ 600,000 บาท และมีโอกาสปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราได้ และอยู่อย่างมีความสุขในช่วงวัยเกษียณ
ตรงกันข้าม ฉันจะไม่มีวันคิดถึงวัยเกษียณเลยถ้าเราไม่เคยวางแผนมาก่อน มีโอกาสดีที่เราจะมีชีวิตที่ยากลำบากเมื่อเกษียณอายุ ดังนั้นเราควรวางแผนชีวิตล่วงหน้า พิจารณาว่าคุณจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ก่อนเกษียณ คุณจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้เงิน ? ในการลงทุนอย่าคิดแต่ว่าคุณจะหาเงินได้เท่าไหร่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือคุณจะเดือดร้อนไหมถ้าขาดทุน ? คุณมีความกังวลมากมายแค่ไหน ? มันจะทำให้เราตระหนักถึงขอบเขตที่เราสามารถยอมรับความเสี่ยงในการสูญเสียการลงทุนของเราได้
4. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุน
ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมทางการเงิน และการลงทุนจากต่างประเทศก็ง่ายขึ้น ให้ทุกคนเข้าถึงการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นต่างประเทศ พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ ทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และพันธบัตรที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เช่น สกุลเงินดิจิทัล และ DEFI การลงทุนทุกประเภทต้องใช้ความรู้ ข้อมูลการลงทุนที่แตกต่างกันยังมาพร้อมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงต้องเรียนรู้และรับความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา
เนื่องจากการลงทุนในหุ้นหมายถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจและการลงทุนในตราสารหนี้ นั่นคือเราให้ยืมเงินกับธุรกิจ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐและนโยบายการเงินจึงส่งผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบต่อแต่ละองค์กร และผลกระทบต่อแต่ละองค์กรนั้นไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์การแข่งขันทางธุรกิจของคู่แข่งหรือการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆย่อมส่งผลกระทบต่อการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องให้ความสนใจกับข่าวสารต่างๆ เช่น ให้ความสนใจข่าวต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการประกาศนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ เนื่องจากจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มหรือข่าวสารอื่นๆ ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมใหม่จากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เราอัปเดตความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และมองหาโอกาสในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเพื่อรับความรู้ด้านการลงทุนด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อย
5. เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม รวมไปถึงการลงทุนที่เข้าถึงง่ายขึ้น
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าจับตามองมีดังนี้
- รถยนต์ไร้คนขับ: เทคโนโลยีนี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลายบริษัททุ่มเทเงินทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง คาดการณ์ว่ารถยนต์ไร้คนขับจะใช้งานได้จริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
- ระบบ AR/VR: เทคโนโลยี AR/VR กำลังถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เกม การศึกษา การแพทย์ และการค้าปลีก คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
- หุ่นยนต์ AI: หุ่นยนต์ AI กำลังถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิต การขนส่ง และการบริการ คาดการณ์ว่าหุ่นยนต์ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดงาน
- ระบบการเงินบน BLOCKCHAIN: เทคโนโลยี BLOCKCHAIN กำลังถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน การค้า และการบริการสุขภาพ คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลก
- อุปกรณ์ IOT AUTOMATION: อุปกรณ์ IOT AUTOMATION กำลังถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น บ้านอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และการเกษตรอัจฉริยะ คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา
การศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้ดีอย่างไร ?
- ช่วยให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือธุรกิจเพื่อลดต้นทุนประหยัดเวลา
- ช่วยให้เราสามารถศึกษาหุ้นเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
- รถยนต์ไร้คนขับ: สามารถนำมาใช้เพื่อลดปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุบนท้องถนน
- ระบบ AR/VR: สามารถนำมาใช้เพื่อการศึกษา การฝึกอบรม และความบันเทิง
- หุ่นยนต์ AI: สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และบริการ
- ระบบการเงินบน BLOCKCHAIN: สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใส และความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
- อุปกรณ์ IOT AUTOMATION: สามารถนำมาใช้เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน และธุรกิจ
การศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มีประโยชน์อย่างไร ?
- ช่วยให้เราเข้าใจโลกอนาคต
- ช่วยให้เราสามารถหาโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต
- ช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยีใหม่ ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเรา การศึกษาเทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยให้เราสามารถปรับตัว และหาโอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต