ไขข้อสงสัย เงินคืนภาษี คืออะไร ? ถ้าจ่ายเกินได้คืนหรือไม่ ?
เงินคืนภาษี คือ เงินภาษีที่เราจ่ายไปเกินกว่าจำนวนที่เราควรจะต้องจ่ายจริง โดยปกติแล้ว เงินเดือนที่เราได้รับจากบริษัท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปก่อนแล้ว เมื่อสิ้นปี เราจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) กับกรมสรรพากร
หลังจากยื่นแบบแสดงรายการภาษีแล้ว กรมสรรพากรจะทำการคำนวณภาษีที่เราควรจะต้องจ่ายจริง เปรียบเทียบกับจำนวนภาษีที่เราจ่ายไปก่อนแล้ว
- กรณีที่เราจ่ายภาษีไปเกิน: กรมสรรพากรจะคืนเงินภาษีส่วนเกินให้กับเรา
- กรณีที่เราจ่ายภาษีไม่ครบ: เราจะต้องจ่ายภาษีส่วนที่ขาดให้กับกรมสรรพากร
ขอคืนภาษี ใครมีสิทธิได้คืนบ้าง ?
กรณีผู้มีรายได้ทุกคนจะต้องยื่นภาษีกับกรมสรรพากรทุกปี โดยมีเกณฑ์รายได้สุทธิ 150,000 บาทขึ้นไป
สำหรับการขอเงินภาษีคืนนั้น ผู้มีสิทธิจะต้องถูกหักภาษีเกินกว่าที่ต้องจ่ายจริง ซึ่งมักเกิดจากการหักภาษี ณ ที่จ่ายล่วงหน้าไว้ก่อน เมื่อถึงเวลายื่นภาษีและคำนวณภาษีทั้งหมดแล้ว พบว่าตัวเองมีรายได้สุทธิอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต้องเสียภาษี จึงสามารถยื่นขอเงินภาษีคืนได้
บุคคลที่สามารถขอเงินคืนภาษีได้ มีดังนี้
- บุคคลธรรมดา ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี
- บุคคลธรรมดา ที่มีรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี แต่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปมากกว่าจำนวนภาษีที่ควรจะต้องจ่ายจริง
- ผู้มีเงินได้ ที่มีสิทธิได้รับ ค่าลดหย่อน ต่าง ๆ เช่น ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ค่าลดหย่อนประกันสุขภาพ ฯลฯ
ช่องทางการขอคืนภาษี มีช่องทางไหนบ้าง ?
1. ผ่านระบบพร้อมเพย์: สะดวก รวดเร็ว ได้เงินคืนภายใน 3-5 วันทำการ (แนะนำ)
ตรวจสอบก่อนว่าผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนแล้วหรือไม่ หลังจากนั้น เข้าระบบ RD Smart Tax หรือยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90/91 ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร แล้วเลือกรับเงินคืนผ่านพร้อมเพย์
2. ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยหรือธ.ก.ส.
กรอกข้อมูลบัญชีธนาคารกรุงไทยหรือ ธ.ก.ส. ในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90/91 แล้วทำการยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90/91 หลังจากนั้นรอรับเงินคืนภายใน 15 วันทำการ
3. ผ่านเช็ค: กรณียังไม่ลงทะเบียนพร้อมเพย์
กรมสรรพากรจะส่งหนังสือแจ้งคืนเงินภาษี (ค.21) พร้อมเช็คไปยังที่อยู่ที่แจ้งไว้ พอได้แล้วให้นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงไทยหรือธ.ก.ส. ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ออกเช็ค
เงินคืนภาษี ปกติจะได้คืนกี่วัน ?
เงินคืนภาษี โดยปกติแล้ว จะได้รับภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ยื่นคำร้องขอคืนภาษี กรณีมีเอกสารครบถ้วน
- กรณียื่นแบบออนไลน์ และไม่มีปัญหา เงินคืนภาษีจะโอนเข้าบัญชีภายใน 3-5 วันทำการ
- กรณียื่นแบบกระดาษ จะใช้เวลานานกว่า
- กรณีเอกสารไม่ครบถ้วน หรือมีข้อมูลไม่ถูกต้อง จะต้องรอตรวจสอบเพิ่มเติม
ขอคืนเงินภาษี มีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างไร ?
สามารถตรวจสอบสถานะ การขอคืนเงินภาษีได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/272.html หรือแอป RD Smart Tax
ท่านสามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนภาษีได้ด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ดังนี้
3. เข้าสู่ระบบ My Tax Account
- คลิกปุ่ม “My Tax Account” บนหน้า “สอบถามข้อมูลการคืนภาษี”
- กรอกข้อมูล
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- รหัสผ่าน
- เลเซอร์ไอดีเลขหลังบัตรประชาชน
- คลิก “เข้าสู่ระบบ”
หากท่านยังไม่มีบัญชี My Tax Account ท่านสามารถสมัครได้ง่าย ๆ เพียง
- คลิกปุ่ม “สมัครใช้งาน”
- กรอกข้อมูล
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ข้อมูลส่วนตัว
- ตั้งรหัสผ่าน
- คลิก “ยืนยัน”
4. หลังจากกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ My Tax Account เรียบร้อยแล้ว ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนไว้กับกรมสรรพากร เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งาน
ขั้นตอน
- ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์มือถือที่แสดงบนหน้าจอ ว่าเป็นเบอร์ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่หรือไม่
- หากเบอร์โทรศัพท์ที่แสดงเป็นเบอร์ปัจจุบัน คลิก “ขอรหัส OTP” ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือ
- หากต้องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ คลิก “แก้ไข” และกรอกเบอร์โทรศัพท์ใหม่
- กรอกรหัส OTP 6 หลักที่ได้รับ ลงในช่อง “รหัส OTP”
- คลิก “ยืนยัน”
หมายเหตุ
- รหัส OTP มีอายุการใช้งาน 5 นาที
- หากไม่ได้รับรหัส OTP ภายใน 5 นาที คลิก “ขอรหัส OTP ใหม่”
- หากกรอกรหัส OTP ผิด 3 ครั้ง ระบบจะล็อกบัญชีชั่วคราว 30 นาที
เมื่อยืนยันตัวตนสำเร็จ ท่านจะสามารถเข้าใช้งานระบบ My Tax Account ได้
กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90, 91) ขอคืนภาษี และยังไม่ได้รับเงินคืน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ดังนี้
1. ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center)
- โทรศัพท์: 1161
- เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 น. – 16.30 น.
2. งานคืนภาษี สำนักงานสรรพากรพื้นที่
- สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่ท่านยื่นแบบแสดงรายการภาษี
- เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 น. – 16.30 น.