เงินประกันสังคม กรกฎาคม 2567 ต้องจ่ายกี่บาท
1. ผู้ประกันตนตามมาตรา 33
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นพนักงานประจำจะต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคม 5% ของรายได้ต่อเดือน โดยฐานค่าจ้างต่ำสุดคือ 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งหมายความว่าเงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่ายคือ 750 บาทต่อเดือน นายจ้างจะจ่ายในอัตราเดียวกัน เมื่อรวมเงินสมทบตลอด 12 เดือน ผู้ที่มีเงินเดือนมากกว่า 15,000 บาทจะจ่ายเงินสมทบรวมทั้งหมด 9,000 บาทต่อปี
2. ผู้ประกันตนตามมาตรา 39
ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะต้องส่งเงินสมทบประกันสังคมจำนวน 432 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อนำส่งตลอดทั้งปีจะรวมเป็นเงินทั้งหมด 5,184 บาทต่อปี
3. ผู้ประกันตนตามมาตรา 40
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 มี 3 ทางเลือกในการส่งเงินสมทบ
- ทางเลือกที่ 1: จ่าย 70 บาทต่อเดือน ครบ 12 เดือน จ่ายทั้งหมด 840 บาทต่อปี
ทางเลือกที่ 1 คือการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีที่เกิดอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต โดยมีอัตราค่าจ่ายเงินสมทบอยู่ที่ 70 บาทต่อเดือน
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับประกอบด้วย
- การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย: การได้รับเงินทดแทนรายได้ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
- ทุพพลภาพ: การได้รับเงินทดแทนรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในกรณีที่ทุพพลภาพ
- เสียชีวิต: การได้รับเงินชดเชยให้กับครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์ในกรณีที่เสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2: จ่าย 100 บาทต่อเดือน ครบ 12 เดือน จ่ายทั้งหมด 1,200 บาทต่อปี
ทางเลือกที่ 2 คือการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีต่าง ๆ รวมถึงกรณีชราภาพด้วย โดยมีอัตราค่าจ่ายเงินสมทบอยู่ที่ 100 บาทต่อเดือน
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับประกอบด้วย
- การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย: การได้รับเงินทดแทนรายได้ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
- ทุพพลภาพ: การได้รับเงินทดแทนรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในกรณีที่ทุพพลภาพ
- เสียชีวิต: การได้รับเงินชดเชยให้กับครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์ในกรณีที่เสียชีวิต
- ชราภาพ: การได้รับเงินบำนาญหรือเงินชดเชยในช่วงเวลาที่เกษียณอายุหรือเข้าสู่วัยชรา
- ทางเลือกที่ 3: จ่าย 300 บาทต่อเดือน ครบ 12 เดือน จ่ายทั้งหมด 3,600 บาทต่อปี
ทางเลือกที่ 3 คือการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในอัตรา 300 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนในหลายกรณีเพิ่มเติมจากทางเลือกที่ 1 และ 2
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับประกอบด้วย
- การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย: การได้รับเงินทดแทนรายได้ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากอาการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
- ทุพพลภาพ: การได้รับเงินทดแทนรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในกรณีที่ทุพพลภาพ
- เสียชีวิต: การได้รับเงินชดเชยให้กับครอบครัวหรือผู้รับประโยชน์ในกรณีที่เสียชีวิต
- ชราภาพ: การได้รับเงินบำนาญหรือเงินชดเชยในช่วงเวลาที่เกษียณอายุหรือเข้าสู่วัยชรา
- สงเคราะห์บุตร: การได้รับเงินช่วยเหลือหรือสวัสดิการเพิ่มเติมสำหรับการดูแลบุตร
แต่ละทางเลือกจะมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามที่ระบุไว้